วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

โรงเรียนเก่า (The Old School)



                โรงเรียนเก่า (The Old School) เหมือนบ้านเก่า เมื่อรู้ว่าจะได้กลับไปเยี่ยมก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นธรรมดา ยิ่งรู้ว่ายังมีเพื่อนร่วมงานหลายคนยังทำงานอยู่ที่นั่นยิ่งดีใจที่จะได้เจอ มันเป็นเยื่อใยไมตรีที่งอกเงยพันผูกเมื่อครั้งที่ใช้ชีวิตร่วมกันแล้วยังเหลือให้เกี่ยวก้อยร้อยใจมาจนถึงวันที่จะกลับไปเยี่ยมอีกครั้งหนึ่ง

                ได้รับเชิญจากทางโรงเรียนให้ไปร่วมเป็นเกียตริในการทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษาสร้างโดมอเนกประสงค์ เนื่องใน “โอกาสครบรอบ 33 ปี หนองหงส์พิทยาคม”  โดยมีคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมกับเครือข่ายผู้ปกครอง ศิษย์เก่า คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาและนักเรียนหนองหงส์พิทยาคมร่วมกันเป็นเจ้าภาพ

                ในครั้งที่ได้ทำงานอยู่ที่นั่น นักเรียนต้องเข้าแถวและทำกิจกรรมกลุ่มใหญ่กลางแจ้งหน้าเสาธง ซึ่งมีแดดตลอดทั้งวัน ทุกเช้านักเรียนต้องยืนกลางแดดจ้าที่ร้อนระอุ กว่าสิบนาทีของการจัดกิจกรรมเชิญธงชาติสวดมนต์ไหว้พระและกล่าวคำปฏิญญาณตนก็กินเวลาประมาณ 13 นาที แถมด้วยครูเวรต้องออกไปให้โอวาทอีกก็กินเวลาร่วม 25 30 นาที บรรยายกาศเช่นนี้ เป็นบรรยากาศที่เหนี่ยวรั้งแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของนักเรียนตั้งแต่เช้า เพราะร้อนจนเหงื่อชุมหลัง ถ้าวันใดที่นักเรียนคนหนึ่งคนใดที่ชอบเล่นโดยใช้แรง เช่น ฟุตบอล ตระกร้อ วอลเล่ย์ ฯลฯ ก็ยิ่งเปียกโชกไปด้วยเหงื่อตั้งแต่เช้า การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพที่สุดเกิดขึ้นเมื่อนักเรียนมีความสุข ปราศจากความเครียด ความสุขที่จะส่งเสริมประสิทธิภาพการเรียนรู้จึงหาไม่ได้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่อย่างนี้

                ความทุกข์จากการเข้าแถวเคารพธงชาติในตอนเช้าจึงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่นักเรียนไม่อยากเข้าร่วม โดยต้องแกล้งทำเป็นมาสาย ส่วนครูก็ปรับตัวโดยการตัดการอบรมที่ใช้เวลามากออกไป ถ้าวันไหนไม่มีการแจ้งข่าวสารก็ให้ทำแต่กิจกรรมเคารพธงชาติ สวดมนต์ไหว้พระและปฏิญาณตนก็เสร็จ ปล่อยเข้าชั้นเรียน
               ดังนั้น การที่โรงเรียนมีโครงการจัดผ้าป่าเพื่อลดปัญหาขาดแคลนสถานที่ทำกิจกรรมจึงมีเหตุมีผลที่ควรสนับสนุนอย่างยิ่ง การได้รับเชิญไปร่วมเป็นเกียรติในครั้งนี้จึงเหมือนเป็นการได้โอกาสไปทำบุญร่วมกับเพื่อนครูทั้งที่เคยร่วมงานกันมาและครูที่มาทำงานในคราวหลัง ๆ ในโรงเรียนเก่านี้ด้วย


                                   "นักเรียนกลุ่มแรกผู้มีเข็มกลัดดอกไม้เป็นกุญไขประตูใจ"

                นักเรียนได้กลัดดอกไม้ที่ซุ้มประตูทางเข้า พร้อมคำทักทาย “สบายดีเหรอคะ”  ก็จากโรงเรียนนี้ไปยังไม่ถึงสามปี นักเรียนจึงยังจำได้ดี คำทักทายเช่นนี้เสมือนปะตูบ้านได้ถูกเปิดออกไปจนสุดบาน
ว่าไปแล้วนักเรียนที่นีก็เหมือนกับทุกที่ในโลก ถ้าเขามีโอกาสได้เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ เขาก็สามารถที่จะพัฒนาตนเองไปได้จนเต็มศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นด้านดนตรี กีฬาและวิชาการ โรงเรียนแห่งนี้จึงเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งที่เป็นที่พึ่งของคนในชุมชนให้ลูกหลานได้เรียนใกล้บ้าน ปัญหาคนเรียนไกลบ้านจึงไม่มีสำหรับที่นี่ แสดงว่าครูจัดการศึกษามีคุณภาพเป็นที่ไว้วางใจของคนในชุมชน

ครูวีรยุทธ ปริมาณครูอาวุโสและเป็นเรี่ยวแรงสำคัญคนหนึ่งในโรงเรียนได้เดินนำหน้าไปส่งยังกองอำนวยการ ที่นั่นพิธีการได้เริ่มต้นไปก่อนแล้ว เมื่อนั่งยังที่ที่เขาจัดไว้ให้จึงมีโอกาสได้รับฟังและดูพิธีการถวายผ้าป่า ที่โต๊ะกลางที่รวมของต้นผ้าป่าหลายกองจนดูแน่นขนัด แต่ละต้นประดับด้วยธนบัตรใบละหนึ่งร้อย ห้าร้อยและพันบาท เงินจำนวนหนึ่งของใครบางคนในที่นี้วอร์เรน บัฟเฟต เจ้าพ่อรวยหุ้นอันดับหนึ่งของโลกเคยกล่าวไว้ว่า “คนเป็นล้าน ๆ คนมอบเงินให้โบสถ์ ให้โรงเรียน ให้มูลนิธิ โดยเงินก้อนนี้ก็ต้องนำมาจากเงินที่จะใช้จ่ายในครอบครัวของตัวเอง เงินที่พวกเขาให้ไปหมายถึงการไม่ได้ไปดูหนัง การงดไปรับประทานอาหารนอกบ้านบางมื้อ การงดซื้อของที่อยากได้บางชิ้น



           "ต้นไม้ป่าที่ประดับด้วยธนบัตรมูลค่าอยู่ที่ี่ราคาแห่งน้ำใจของสาธุชน"

มันเป็นเรื่องจริงอยู่มาก เพราะการที่โต๊ะกลางมีต้นผ้าใบเป็นพุ่มพฤกษ์หนาตาเช่นนี้ ส่วนหนึ่งเป็นของศิษย์เก่าที่จบออกไปมีการมีงานทำในเมืองได้ร่วมใจกันรวบรวมเป็นเงินก้อนมาช่วยโรงเรียนเก่าของพวกเขา
เสร็จพิธีการตรงนั้น ได้มีโอกาสเข้าไปทักทายเพื่อนร่วมงานที่นั่งกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ นำโดย      รองผู้อำนวยการสากล โตสกุล รองผู้อำนวยการชญานินท์ อินทอง และใครต่อใครอีกหลายคนที่กรูกันเข้ามาทักทาย เพียงคนละประโยคสองประโยคก็คุ้มค่าแห่งปฏิสันถารนั้น
ที่ด้านหน้าใกล้เวทีกลางมีโซฟาของท่านบุญชัย สมใจ นายอำเภอหนองหงส์ประธานในพิธีและผู้อำนวยการชาตรี อัครสุขบุตร ผู้อำนวยการโรงเรียน หัวเรือใหญ่ ตลอดจนแขกผู้มีเกียรตินั่งอยู่กันเป็นคณะ ได้มีโอกาสทักทายทุกท่านเพียงสั้น ๆ ก่อนที่จะผ่านขึ้นบนเวทีเพื่อถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแก่พระภิกษุสงฆ์ หลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดใหญ่ในอำเภอหนองหงส์ยังสุขภาพแข็งแรงดี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ที่นี่มีครูขจรเกียรติ สุพิศ ยังเป็นพิธีกรด้านพิธีสงฆ์เหมือนเดิม
  
                    "นายบุญชัย สมใจนายอำเภอหนองหงส์ประธานเปิดงาน"

แยกตัวออกจากมุมพิธีการไปเลียบเคียงโรงทาน ที่นี่มีโรงทานในยามบุญที่หนาแน่นเช่นเดิม เป็นความร่วมมือของผู้ปกครองนักเรียน ครูอาจารย์ในโรงเรียนจัดอาหารมาเลี้ยงแขกคนที่มาร่วมบุญ ความยิ่งใหญ่ของกิจกรรมเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกของชุมชนแห่งนี้
กิจกรรมพิธีการต่าง ๆ ได้ลากเลื่อนเวลาออกไปจนถึงเที่ยงวัน ทุกอย่างจึงสิ้นสุดลง ยังคงเหลือกิจกรรมภาคกลางคืนที่เป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ของศิษย์เก่าที่แยกย้ายกันไปประกอบอาชีพการงานในต่างจังหวัดได้กลับบ้านในวันหยุดปีใหม่และถือโอกาสทำบุญเพื่อโรงเรียนของพวกเขา วัฒนธรรมเช่นนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วสำหรับสังคมไทย
การมีจิตใจสูง นอบน้อมและเกื้อกูลกันของคนในสังคมไทยเป็นลักษณะเด่นของคนไทย ที่เป็นจุดแข็งทำให้ไทยยังคงเป็นไทยอยู่ได้ เพราะถึงที่สุดแล้วอย่างไรเสียคนไทยไม่เคยทิ้งกัน


                         "สมาชิกโรงทานกระเพาะอาหารของงานผ้าป่าทุกครั้ง"

การได้รับเชิญจากทางโรงเรียนให้ไปร่วมเป็นเกียรติในการทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษาสร้างโดมอเนกประสงค์ เนื่องใน “โอกาสครบรอบ 33 ปี หนองหงส์พิทยาคม”  ในครั้งนี้จึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้ไปอยู่ในท่ามกลางคนดี ทำให้รู้สึกเปี่ยมสุขและภาคภูมิใจที่ครั้งหนึ่งเคยได้เป็น ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้

จึงพูดกับใครต่อใครไม่หยุดว่า ผมเคยเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนหนองหงส์พิทยาคม !!!


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น