David Von Drehle รายงาน
สุริยา เผือกพันธ์ แปลและเรียบเรียง
“ที่ชานเมืองมอนโรเวีย
เมืองหลวงของไลบีเรีย ผืนหญ้าสีเขียวอยู่ท่ามกลางปาล์มและพืชเขตร้อน
เป็นสถานที่ก่อเกิดเรื่องราวของกลุ่มคนในบ้านสีเหลืองสดใสแจมด้วยสีน้ำเงินอย่างประณีต
นี่คือหน่วยปฏิบัติการ The campus of Eternal Love Winning
Africa ที่ที่ไม่มีเชื้อชาติศาสนา” และนี่เป็นหนึ่งในบุคคลแห่งปี 2014
“จำนวนผู้ป่วยทรงตัวในไลบีเรียแต่ยังเพิ่มมากขึ้นในกินิและเซียร์ราโอน
“
ไลบีเรีย
ป่วย 7,719 ราย เสียชีวิต 3,177 ราย กินี ป่วย 2,283 ราย เสียชีวิต 1,412 ราย เซียร์ราโอน ป่วย 7,798 ราย เสียชีวิต 1,742
ราย
ดร.บรู๊ซ
ริบเนอร์ (Dr. Bruce Ribner) วัย 69 ปี ผู้อำนวยการหน่วยควบคุมโรคติดต่อ Serious
communicable Disease Unit โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอีมอรี แอตแลนต้า
ในระยะแรกของการระบาด ผมรู้ว่าผู้ป่วยเป็นคนในอัฟริกาที่ติดเชื้ออิโบล่า
และที่นั่นมีคนอเมริกันอยู่ด้วย และผมรู้ด้วยว่าถ้านำพวกเขากลับอเมริกา
ก็จะกลายเป็นที่สนใจต่อการดำเนินชีวิตอย่างมาก
ดังนั้นภารกิจในเบื้องต้นของพวกเราคือ การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของ CDC
(หน่วยป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐอเมริการ: Centers for Disease
Control) แต่ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องเกี่ยวกับประชาชนจนกระทั่งได้รับโทรศัพท์
(จาก Brantly และ Writebol)
การเป็นนักระบาดวิทยา ผมได้เพิ่มความสำคัญกับการสร้างหน่วยงานที่พวกเราเคยอยู่มา
เกือบทุกแห่งที่มีจะขาดคนทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก แต่ไม่เป็นไร เพราะว่า ที่นี่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ระเบียบการของเราในแต่ละวันยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ จริง ๆ แล้วพวกเรามีระเบียบและแผนการในใจที่จะใช้เวลาทำการทดลองอยู่แล้ว
มันไม่ใช่สิ่งที่คุณจะทำนายได้อยู่แล้ว
ใครจะรู้ว่า MERs กำลังจะมา ใครจะรู้ว่า SARs กำลังจะเกิดและใครจะรู้ว่าอัโบล่ากำลังจะกระจายจากอัฟริกาตะวันตกและมาระบาดอย่างน่ากลัวได้เกือบปีแล้ว
จริงแล้วเราได้ทำทุกอย่าง เพราะว่าเรารู้ว่า เหตุของการระบาดทุกวิธี
ก็เหมือนกับสิ่งที่เราเคยเห็นมาแล้ว เราไม่ได้มีแผนการรองรับไว้
หมายเหตุ
:
1. ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์กลุ่มอาการโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (อังกฤษ: Middle East respiratory syndrome coronavirus, MERS-CoV) เป็นเชื้อไวรัสชนิดโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะคล้ายกับไวรัสที่ทำให้เกิด SARS ตรวจพบครั้งแรกในตะวันออกกลางช่วงกันยายน 2555 ในผู้ป่วยชาวกาตาร์ที่เพิ่งเดินทางไปยังซาอุดิอาระเบีย
ซึ่งกำลังป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจและไตวาย
2.
ซาร์สหรือ SARS ย่อมาจาก Severe acute
respiratory distress syndrome หรือบางคนเรียกว่า กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง คือโรคติดต่อร้ายแรงที่เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ
SARS corona-virus โดย ผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการทางระบบหายใจ ซึ่งอาจรุนแรงจนมีโอ
กาสเสียชีวิตได้สูง เป็นโรคที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่
โดยเกิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศจีนในปี พ.ศ. 2545 ติดต่อกันได้ง่าย
จึงทำให้เกิดการระบาดไปยังอีกหลายประเทศทั่วโลก องค์การอนามัยโลกร่วม
กับองค์การต่างๆ จึงได้พยายามควบคุมโรค และสามารถหยุดการระบาดได้ในปีต่อมาคือ พ.ศ.2546 ซึ่งในปัจจุบันก็ยังไม่พบการระบาดขึ้นมาอีก
ดร.
เคนต์ แบรนต์ลี่ (Kent Brantly)
วัย 33 ปีเป็นหมอขององค์กรการกุศล Samaritan’s Purse
ผู้นำทีมนำข่าวมาที่หน้าต่างห้องนอนของผม
“เคนต์ เพื่อน เรามีผลงานของแกนะ มันเป็นข่าวดีสำหรับอีโบล่า” ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร
เพียงแต่ถามเค้าว่า “เกี่ยวกับแผนของเราหรือ”
ไม่นาน หลังจากที่ผมมาถึงอีมอรี่
ภรรยาผม แอมเบอร์ โทรหาผมจากนอกห้อง ผมจำไมได้ว่าเราพูดว่าอะไรกัน ผมเพ้อมา
แต่เธอได้พูดกับผมว่า “ เราเห็นคุณเดินออกจากรถพยาบาลฉุกเฉิน” ผมถามเธอว่า “คุณมองฉันเหรอ” เธอตอบว่า “ใช่
เคนต์ โลกทั้งใบมองคุณอยู่”
ผมเหมือนคนที่มาก่อนอีโบล่าหรือ ไม่ว่าจะตอบกี่ครั้งก็ต้องบอกว่า
ใช่ ผมไม่ได้มีจิตสำนึกที่ต้องตระหนักอยู่ในทุก ๆ นาที ตลอดเวลาในที่ที่ผมใช้ชีวิตอยู่
แต่ผมคิดว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเราผ่านไปตลอดเส้นทางที่จะทำให้เกิดความเสียหาย
มันไม่ใช่เป็นการเล่าเรื่องการกอบกู้แบบที่เป็นอยู่ปกติ
แต่มันเป็นเรื่องของโอกาสที่จะสร้างความน่าเชื่อถือในการกอบกู้บางสิ่งบางอย่าง
เราสามารถพูดได้ว่า ผมจะสามารถทำอะไรให้ดีขึ้นในเวลานี้ได้อย่างไร
เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ผมอยู่กับมันมาตลอดเวลา
เมื่อผมขอบคุณพระเจ้าเพื่อความปลอดภัยของชีวิต
ผมไม่มีอะไรที่แสดงให้เห็นเป็นเอกลักษณ์เกี่ยวกับเรื่องนั้น ถ้าคุณดูวีดิทัศน์ของผู้รอดชีวิตในไลบีเรีย
คุณจะเห็นคนจำนวนมากเหล่านั้นขอคุณพระเจ้าที่ทำให้เขารอด ผมเลือกอาชีพในโรงพยาบาล
เพราะผมมีความต้องการทักษะที่จับต้องได้ในการบริการประชาชน ลึกสุดในหัวใจของผม
ผมยังคิดว่า เสียงที่เรียกผม ผมไม่ต้องการได้ยินไปตลอดชีวิตและอยากลืมเรื่องนี้
ดร.
ฟิลลิป ไอเรแลนด์ (Dr. Philip Ireland) วัย 44 ปี หมอชาวไลบีเรียที่ศูนย์การแพทย์ John
F.Kennedy Medical Center ในมอนโรเวีย
พวกเราไปถึงโรงพยาบาลที่หน่วยรักษาโรคอีโบล่า
ผมล้มตัวลงบนเตียงนอนและหมดสติไป
ในคืนนั้นเป็นคืนที่เลวร้ายที่สุด
ผมมีผู้ป่วยท้องเสีย (Diarrhea) 46 รายและผู้ป่วยอาเจียน (Vomiting) 26 รายผมอยู่ในทะเลของความสับสน ในวันต่อมาได้มีผู้ช่วยหมอ (Physician’s
assistant) เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งผมไม่มีวันลืมเขาได้ เขาทำงานให้ผมด้วยความรัก
ทำความสะอาดให้ผมอย่างมากมายที่ผมจะไม่ลืมเป็นอันขาดตลอดชั่วชีวิต
เขาทำความสะอาดผมทั่วทั้งตัว สวมเสื้อผ้าให้ ให้ผมนอนบนเตียงที่สะอาดซึ่งผมรู้สึกว่า
มันเป็นสิ่งที่สุดยอดจริง ๆ
ในตอนเช้าของสามวันแรก ผมเริ่มงานด้วยความสยดสยอง
ผมมีอาการสะอึกที่น่าสยดสยอง (Terrible hiccups)
อาการที่เกิดจากอีโบล่า มันเกิดอาการเมื่อหมอในคลินิกได้รักษาผม ผมคิดว่าผมจะต้องตายแน่
พวกเขาได้พูดคุยกันแม้กระทั่งว่า จะเผาหรือฝังผม และข่าวในวันนั้นกระจายไปว่าผมได้เสียชีวิต
แต่หลังจากวันนั้น วันที่สี่ใน ETU ผมอาการดีขึ้น
ดังนั้นเมื่อพวกเขามาตรวจผมในเช้าวันต่อมา
พวกเขาเห็นผมยืนอยู่ด้วยความรู้สึกปลาดใจอย่างมาก
ผมพักอยู่ที่นั่นจนกระทั่งดีขึ้นเรื่อย
ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น