วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ผมชื่อเมอร์ริด้า (My name is Merida)



“อาการที่อ่อนล้าเพราะร่างกายใช้ไกลโคเจนหรือคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายสะสมไว้ในกล้ามเนื้อไปจนหมด การผ่อนแรงหรือหยุดพักเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทาง เพื่อให้ร่างกายได้สร้างเสริมส่วนที่ขาดหายไป เป็นการจัดสมดุลในร่างกายให้มีพลังงานที่จะเดินหน้าต่อไป

                ผมชื่อเมอร์ริด้า (MERIDA) เชื้อสายไต้หวัน มาอยู่กับบอสได้เกือบสิบห้าปีแล้ว สุขภาพผมแข็งแรงดี ไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วย บอสพาผมไปหาหมอครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว หมอลงความเห็นว่าผมควรเปลี่ยนดุมล้อ ทั้งที่ผมยังพอไหว แต่บอสก็ตามใจหมอ เพราะอยากเห็นผมแข็งแรงทนทาน อยู่กับบอสไปนาน ๆ อานของผมแตกเป็นลายงา แต่บอสไม่ยอมเปลี่ยน บอสมีเหตุผลว่ามันเป็นของต้นแบบ (Original) ควรเก็บไว้ นอกนั้นทุกอย่างสมบูรณ์แบบครับ
               บอสมักพาผมออกจากบ้านราวบ่ายสามโมงโดยประมาณ ไปตามเส้นทางถนนสี่เลนเข้าตัวจังหวัด บางครั้งท้องฟ้าแจ่มใสตอนออกจากบ้าน แต่ปั่นมาได้ประมาณสองกิโลเมตรกลับมีฝน เอาแน่นอนไม่ได้กับธรรมชาติ ถ้าเจอสถานการณ์ไม่คาดฝันเช่นนั้นก็ต้องแวะข้างทาง เพื่ออาศัยชายคาบ้านเรือนหรือไม่ก็ป้ายรถประจำทางหลบความเปียกปอน
บอสทิ้งผมไว้นานนับเดือน เพิ่งจะจับผมไปปะยางหน้า เช็คลมล้อหลังและปัดฝุ่นนำผมไปห้อตะบึงอีกครั้งหนึ่ง ก่อนหน้านั้นบอสใช้ Trek ปั่นค้อมตัวพุ่งพลิ้วลมทดแทนผม มันเป็นช่วงฝนลงหนัก บางครั้งเราถึงกับหยุดพักไปทั้งคู่ ในระหว่างนั้นบอสใช้วิธีวิ่งเหยาะ ๆ (Jogging) แทนอยู่หลายเวลา เพิ่งจะนำผมมาใช้อีกเมื่อปลายฝนต้นหนาว


                ระหว่างที่บอสปั่นผมครั้งล่านี้ ผมสังเกตดูบอสออกจะเนือย ๆ ทำให้ผมออกตัวไปแบบหนืด ๆ คล้ายมีลมต้านอยู่ตลอดเวลา แต่เราทั้งสองยังคงเคลื่อนตัวไปข้างหน้า เพราะเป้าหมายคือ จุดยูเทริ์นที่หลักกิโลเมตรที่ 26 บอสยังคงตั้งเกียร์แช่ไว้เหมือนตอนเริ่มต้นคือ เกียร์หน้าเป็นเกียร์สาม เกียร์หลังเป็นเกียร์เจ็ดอัตราความเร็ว 2.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้ล้อจะหมุนทำระยะทางไปได้ไกลพอสมควร แต่ดูทีท่าว่าอัตราความเร็วของผมยังคงที่ เลยจุดยูเทริ์นมาได้ไกลโข เหลืออีกเพียง 14 กิโลเมตรจะถึงจุดเริ่มต้น บอสของผมกลับแรงตกไปเสียดื้อ ๆ ดูท่าจะไปไม่รอด แต่บอสก็ไม่ยอมละทิ้งความพยายามไปเสียง่าย ๆ
บอสทดเกียร์หลังลงมาอยู่ที่เกียร์หกและต่ำลงมาเกียร์ห้า ผมคิดว่าบอสคงได้ผ่อนคลายความเมื่อยล้าของขาทั้งสองข้างจากเกียร์ที่เบาลง มันเป็นการปรับกลยุทธ์ของการขับขี่ เหมือนกับการทำงานต่าง ๆในชีวิตประจำวัน อาการที่อ่อนล้าเพราะร่างกายใช้ไกลโคเจนหรือคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายสะสมไว้ในกล้ามเนื้อไปจนหมด การผ่อนแรงหรือหยุดพักเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทาง เพื่อให้ร่างกายได้สร้างเสริมส่วนที่ขาดหายไป เป็นการจัดสมดุลในร่างกายให้เพิ่มพลังงานที่จะเดินหน้าต่อไป
บอสผ่อนแรงปั่นในระดับเกียร์ห้ามาถึงหลักกิโลเมตรที่ 9 จึงมีโอกาสปรับเกียร์สูงขึ้นไปอยู่เกียร์เจ็ดได้ตามเดิมและเพิ่มแรงปั่นได้เร็วขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะบอสพาผมข้ามเนินถนนมาอยู่ในช่วงขาลง ทางที่ลาดต่ำทำให้การเคลื่อนตัวไปข้างหน้าทำได้เร็วขึ้น เป็นการปรับความเร็วเพื่อทำเวลาให้ได้ก่อนตะวันจะลับแสงไป




                แต่เมื่อปั่นไปได้ถึงหลักกิโลเมตรที่ 6 ก็มีลมกรรโชกมาอีกครั้ง บอสพาผมไปแวะพักอยู่หน้าประตูทางเข้าผืนนา ซึ่งปิดตายมาตั้งแต่หลังฤดูเก็บเกี่ยวในเดือนอ้าย บัดนี้ผืนนามันแล้งไร้ความชุ่มชื้น ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลไหม้ถูกลมและฝนหลงฤดูพัดไปทับถมบนทางเดิน จนกลบรอยเหยียบย่ำของผู้คนเสียหมดสิ้น ป่าสองข้างทางที่เคยเขียวชอุ่มในวสันตฤดูต้องสลัดใบ เหลือเพียงลำต้นที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกไป ดูแหว่งโหว่ซังกะตาย พืชสวนที่เคยชูช่อไสวล้อลมในฤดูปักดำ มาบัดนี้ดูหงอยเหงา
สีน้ำตาลกรอบเกรียมไหม้กำลังกัดกินขอบใบ รุกลามไปทั้งหย่อมย่าน ไม่นานมันคงขยายตัวคุกคามไปทุกใบทุกต้น
                ที่ริมฝั่งสระน้ำ มีไม้ใหญ่ล้มลงและทอดตัวไปตามขอบคู ก่อนหน้านี้มันเป็นไม้ที่เคยทะนงและองอาจ ลำต้นชะลูดสูงเสียดแทงแผ่นฟ้า ดูมันยืนเด่นเป็นสง่าที่สุดในราวป่า ร่มเงาของมันเคยเป็นแหล่งพักพิงของบรรดานกหนูหรือแม้กระทั่งคนที่เก็บเกี่ยวในนาข้าว ขณะนี้ มันล้มลง นอนราบกับพื้นดิน ลำต้นขาด สะบั้น กิ่งก้านแตกหักกระจายไปคนละทิศละทาง มันจึงดูพังพาบสิ้นเรี่ยวแรง ไม่เหลือร่องรอยของพญาไม้ไว้เลยแม้แต่น้อย


                ผมเห็นบอสเดินหันหลังกลับออกมาตรงประตูทางเข้าอีกครั้งหนึ่ง ต่อหน้าบอสผมคือ เมอร์ริด้า บอสยิ้มให้ผม ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย แต่สงบเย็น มือสองข้างกุมแฮนด์มั่น เท้าข้างขวายันพื้นไว้ ให้โอกาสเท้าข้างซ้ายกระชับมั่นบนบันไดปั่น
                เมื่อสายตาจ้องจับไปบนถนนสายที่ทอดยาวไปข้างหน้า ผมพุ่งทะยานตัวอีกครั้ง มันไม่เร็วไปกว่าก่อนหน้านี้ มันยังดูหนืดเนือย เหนื่อยล้า ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมมันจึงเป็นเช่นนั้น เราทั้งสองต่างร่วมกันใช้เส้นทางนี้มายาวนาน ผ่านม่านหมอกของกาลเวลามาหลายฤดูกาล
                บัดนี้ ผมได้สังเกตเห็นสีน้ำตาลไหม้แต้มแต่งตามตัวของเราทั้งสอง มันเข้มข้น คุกคาม ขยายวงมากขึ้น นี่มันคงเป็นเชื้อสีที่แพร่ระบาด มาจากราวป่าในนาข้าวเมื่อครู่นี้

                ผมต้องบอกบอสเตรียมปรับกลยุทธ์การขับขี่อีกครั้ง

                

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น