วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558

บุคคลแห่งปี 2014 (2014 Person of the Year) นักรบอีโบล่า (The Ebola Fighters): คนผู้ขานรับเสียงเพรียกหา (6)




                                                                                       David Von Drehle   รายงาน
                                                                               สุริยา เผือกพันธ์ แปลและเรียบเรียง


                            “ที่ชานเมืองมอนโรเวีย เมืองหลวงของไลบีเรีย ผืนหญ้าสีเขียวอยู่ท่ามกลางปาล์มและพืชเขตร้อน เป็นสถานที่ก่อเกิดเรื่องราวของกลุ่มคนในบ้านสีเหลืองสดใสแจมด้วยสีน้ำเงินอย่างประณีต นี่คือหน่วยปฏิบัติการ The campus of Eternal Love Winning Africa ที่ที่ไม่มีเชื้อชาติศาสนา” และนี่เป็นหนึ่งในบุคคลแห่งปี 2014




ออกัสติน บินดี้ (Augustine Bindi) พยาบาลวัย 32 ปีแห่งหน่วยรักษาอีโบล่า ELWA2 มอนโรเวีย

                            นี่คือสิ่งที่อันตรายมากสำหรับคนไลบีเรียทุก ๆ คน ฉันเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้กับอีโบล่า โดยปกติแล้วเพื่อการรักษาความปลอดภัยแก่ประชาชนของเรา ทุก ๆ วัน ทุก ๆ เดือน ตลอดเวลาเราทำงานด้วยความสง่างามด้วยอำนาจของพระเจ้าและช่วยเหลือ ดร.บราวน์


เจ้าหญิงอดิโก (Princess Ideko) พยาบาลวัย 26 ปีแห่งหน่วยรักษาอีโบล่า ELWA2 มอนโรเวีย

                ฉันทำงานนี้เพราะว่าประชาชนจำนวนมากได้เสียชีวิตลง มันเป็นทางเดียวที่เราพยายามช่วยให้รอดจากอาการป่วยอันรุนแรงจากเชื้อโรคนี้  ด้วยการช่วยให้แต่ละคนได้ต่อสู้กับไวรัส



แอมเบอร์ วินสัน (Amber Vinson)  พยาบาลวัย 29 ปีแห่งโรงพยาบาล Texas Health Persbyterian Hospital ดัลลัส

             ฉันเคยเป็นพยาบาลมา 5 ปี ดังนั้นจึงรู้สึกคล่องแคล่วในการดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้ออีโบล่า (ธอมัส อีริค ดันแคน) แต่ทำอย่างอื่นหนักมาก เรามีมุมมองที่แตกต่างในการดูแลเขาในห้องผู้ป่วยนั้น มันยากลำบากมากในการดูแลสิ่งต่าง ๆ ด้วยมีการพูดถึงข่าวต่าง ๆ มาก มันต้องใช้ความอดทนมาก สื่อให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริงในบางครั้ง เพราะมันเป็นการทำให้คนกลัวมากขึ้น ฉันเก็บตัวและเงียบมาก ๆ ดังนั้น ที่ฉันทำบางสิ่งนี้ไม่ได้เตรียมตัวเองมาก่อน แต่ก็ต้องการที่จะมีส่วนในการช่วยเหลือ

นิน่า ฟาม (Nina Pham)  พยาบาลวัย 26 ปีแห่งโรงพยาบาล Texas Health Persbyterian Hospital ดัลลัส

              ครั้งแรกที่ฉันได้ยินคำว่าอิโบล่าในดัลลัส ในสองสามชั่วโมงก่อนที่จะรับตัวผู้ป่วยชื่อ ดันแคน เข้ามารักษา มันน่ากลัวมากแต่ฉันก็รับเข้ามาดูแล ก็ฉันเป็นใครล่ะถ้าไม่ใช่พยาบาล ฉันคิดแล้วคิดอีกว่า ฉันจะติดเชื้อนี้ได้อย่างไรจึงทำทุกอย่างที่จะสามารถอธิบายได้ ฉันได้แต่ตกใจที่หัวหน้าพยาบาลและเป็นเจ้าหน้าที่ของ CDC มาดูฉันด้วยเครื่องมือการป้องกันทุกอย่าง ฉันรู้ว่ามันไม่สู้จะดีซะแล้ว


เคซี่ ฮิคคอคซ์ (Kaci Hickox) พยาบาล MSF (องค์การแพทย์ไร้พรมแดน หรือ เอ็มเอสเอฟ Médecins Sans Frontières)  วัย 33 ปี

                เมื่อฉันก้าวลงจากสนามบินนูอาร์ก (Newark Airport) ฉันอยากจะถามบางสิ่ง จึงเข้าไปกรอกแบบฟอร์มยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้วบอกพวกเขาว่า ฉันเป็นเจ้าหน้าที่รักษาผู้ป่วยอีโบล่า เขาตอบว่า “โอเค ไม่ต้องกังวลใจ พวกเขาจะถามคุณบางคำถาม” เขาเดินนำฉันตรงสำนักงานกักตัวของ CDC ในสนามบิน พวกเขาวัดอุณหภูมิในร่างกาย ซึ่งไม่ประหลาดใจในตัวฉันที่ปกติ แล้วอะไรที่พวกเขาประหลาดใจ สิ่งนั้นคือไม่มีใครเข้ามาจับตัวฉัน
                ฉันอยู่ในสนามบินราวหกชั่วโมง ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมโรคติดต่อแห่งนิวเจอร์ซี่เรียกฉันและพูดว่า “พวกเราจะต้องกักตัวคุณไว้”  ฉันพูดว่า “ไม่เข้าใจทำไม ฉันไม่ได้มีอาการติดเชื้อแต่อย่างใด  ถ้าคุณไม่ได้มีอาการคุณก็ไม่ใช่ผู้นำเชื้ออีโบล่า”
                สองสามชั่วโมงหลังจากที่มาถึง บางคนมาวัดอุณหภูมิอีกครั้งหนึ่งแล้วก็พูดว่าฉันมีไข้ ฉันโต้แย้งในเรื่องนี้ ฉันรู้สึกคับค้องใจและหน้าตาเคร่งเครียด ซึ่งเห็นผลจากการอ่านค่าที่เป็นบวกในการใช้เทอร์มอ        มิเตอร์วัด ฉันรอเวลาให้รถฉุกเฉินมารับตัวไปโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ในเต้นท์ ฉันวัดเชื้ออีโบล่าได้ผลเป็นลบ ในที่สุดฉันก็ได้รับการปล่อยตัวจากที่กักตัวกลับบ้านที่เมน (Maine) มีบางอย่างที่ฉันต้องพิสูจน์คือ นำคำพิพากษากลับไปที่สถานกักตัวอีกครั้ง

                ฉันมีหลักฐานเหตุที่อีโบล่าถูกทำลาย และมีร่องรอยที่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่นำความกลัวมาสู่ ฉันทำในสิ่งที่จะทำให้กล้บไปที่อัฟริกาตะวันตกอีก แต่เดี๋ยวนี้ฉันอยู่ไปแบบวัน ๆ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น