David Von Drehle รายงาน
สุริยา เผือกพันธ์ แปลและเรียบเรียง
“ที่ชานเมืองมอนโรเวีย
เมืองหลวงของไลบีเรีย ผืนหญ้าสีเขียวอยู่ท่ามกลางปาล์มและพืชเขตร้อน
เป็นสถานที่ก่อเกิดเรื่องราวของกลุ่มคนในบ้านสีเหลืองสดใสแจมด้วยสีน้ำเงินอย่างประณีต
นี่คือหน่วยปฏิบัติการ The campus of Eternal Love Winning
Africa ที่ที่ไม่มีเชื้อชาติศาสนา” และนี่เป็นหนึ่งในบุคคลแห่งปี 2014
เอลล่า
วัตสัน-สไตรเกอร์ (Ella Watson-Stryker) วัย 34 ปี ผู้ส่งเสริมสุขภาพกับแพทย์ไร้พรมแดน
องค์กร Medecines Sans Frontieres (MSF)
กินิหักอกฉัน
ฉันไม่ได้เตรียมตัวมาเพื่อที่จะนับจำนวนคนตาย
ฉันไม่ได้เตรียมตัวมาเพื่อที่จะดูครอบครัวสูญเสีย
ฉันไม่ได้เตรียมตัวมาเพื่อที่จะดูโศกนาฏกรรมของหมู่บ้าน หมู่บ้านในกินิที่อยู่ห่างออกไปจากถนน
ในบ้านว่างเปล่า มันหมดไปทั้งครอบครัว
มันเป็นที่ที่กลายเป็นหมู่บ้านป่าช้าและฉันรู้ว่าทุกคนอยู่ในหลุมฝังศพ
มันอาจเป็นความดำมืดที่สุดในกีนิ
ในวันเริ่มต้นเดือนพฤษภาคม คนสำคัญได้กลับเข้ามาในหมู่บ้าน เขามาร่วมงานศพ
และเป็นเพราะว่าเขาเป็นที่เคารพของคนในหมู่บ้านนี้อย่างมาก
เมื่อเขาเสียชีวิตลงทุกคนต้องมาร่วมงาน ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามากของคนเราที่เราไม่ต้องการฝังบางคนไปกับอาเจียนและอุจจาระ
เราต้องการชำระล้างร่างกาย
ดังนั้น ในสัปดาห์แรก
ญาติพี่น้องที่เป็นผู้ชายทั้งหมดของเขาได้เข้ามาเยี่ยม และทุกคนเสียชีวิตทั้งหมด
และต่อมาญาติที่เป็นผู้หญิงทั้งหมดได้มาเยี่ยมอีกและทุกคนได้เสียชีวิตเช่นกัน
และต่อมาเด็ก ๆ ได้มาเยี่ยม เราได้รับเด็กไปรักษาที่ศูนย์สามคน
ที่สุดรอดชีวิตเพียงคนเดียว อายุ 12 ขวบ
เธอหันหน้าของเธอเข้าฝา ไม่อยากพูด ไม่อยากกินอะไร เธอถูกทำร้ายอย่างรุนแรง
ด้วยการสูญเสียทุกคนในครอบครัว เหลือเพียงสิ่งเดียวที่เธออยากจะพูดคือ
พาฉันไปหาแม่เถิด
ดร.โจแอนนี
ลิอู (Dr.Joanne Liu) วัย 49 ปี
ประธานนานาชาติแห่ง MSF
ฉันจำได้ดีถึงการพูดขององค์กร
WHO เกี่ยวกับการระบาดของไวรัสที่อยู่ภายใต้การควบคุมและนำพวกเราไปด้วยความเชื่อมั่นในพวกขั้น
Samaritan’s Purse มันเป็นสิ่งที่ไม่ใช่เลย การตื่นตัวเกิดขึ้นเมื่ออาสาสมัครจากองค์กร
ได้รับเชื้อเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม
ทันใดนั้นเอง จริง ๆ แล้ว อีโบล่าไม่ได้อยู่ไกลไปจากโลกตะวันตกเลย
มันเป็นความอึดอัดที่จะมีชีวิตอยู่อย่างกดดัน
ไม่มีอะไรที่สำคัญยิ่งเท่ากับ ผลของการระบาดเท่ากับ อีโบล่า
ความน่าสะพรึงกลัวที่สุดจากการระบาดนี้คือ
เมื่อสุขภาพของคนในสาธารณะรู้สึกว่าจะไม่ได้รับการตอบสนองในวิธีการป้องกันดูแล
ทำไมเราไม่เรียนรู้จากวิกฤติในครั้งนี้อีกสักเรื่องหนึ่ง
เพื่อนของฉันคนหนึ่งในกลุ่มกล่าวว่า
การต่อสู้กับอีโบลา
มันเหมือนเป็นการต่อสู้ในแนวหน้าของสนามรและมันมีปืนกลไฟยิงใส่เราตลอดเวลา ในเดือนกันยายน
เราจะเป็นหน่วยรักษาที่แยกออกมาต่างหากโดยใช้เวลาเพียงสองสามนาที
เพียงแต่จัดเตียงไว้ในที่คนเสียชีวิตในตอนกลางคืน หลังจากนั้นเราจะนำทุกคนไป
มันเป็นสถานการณ์ของการขาดมนุษยธรรม เราเห็นคนตายต่อหน้าโดยปราศจาคความรัก
เพียงแค่ในห้วงที่คนขาดสิ่งนี้ เรากลับโชคดีอย่างมาก
เรามีคนติดเชื้อเพียงสองสามคนเท่านั้นซึ่งไม่มากเลย
ในตอนแรก ฉันได้ยินว่า
หนึ่งในสมาชิกของเราติดเชื้อ ฉันได้รับเสียงโทรศัพท์กลางดึก
มันทำลายและเรารู้สึกเหมือนฟ้าถล่มลงมา พวกเราปรารถนาให้ความเสี่ยงเป็นศูนย์
แต่ทุกอย่างที่เราทำ การปลอดความเสียงไม่มีความยั่งยืน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น