รถไฟฟ้า
BTS
บ่ายหน้าฝ่าความมืดผ่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปทางด้านทิศเหนือของกรุงเทพมหานคร
เมื่อมองไปยังด้านล่างกลุ่มแสงไฟสีแดงท้ายรถยนต์ที่วิ่งอัดแน่นกันบนถนนรอบอนุสาวรีย์เคลื่อนตัวไปอย่างเนิบนาบ
ดูราวกับสายธารลาวาสีแดงฉานไหลลงจากปล่องภูเขาไฟแล้วปูลาดเป็นทาง ทอดยาวออกไปบนพื้นราบเบื้องล่าง
ไกลออกไปสุดปลายทาง ถนนเรียวเล็กลงจนมองเห็นเป็นจุดอยู่ลิบลิบ
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้
ผมเดินทางมาจากจุดเริ่มต้นของการเดินทางด้วยรถฟ้า BTS ที่สถานีนานา
สุขุมวิทซอย 11 เยื้องสถานีรถไฟฟ้าไปทางฝั่งตรงกันข้าม
เป็นสุขุมวิทซอย 12 ที่นั่นเป็นสถานที่ตั้งสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนหรือมูลนิธิมีชัย
วีระไวทยะ เรามีนัดกันที่ Cabbages & Condoms Restaurant, Thailand ซึ่งเป็นร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ในบริเวณนั้น
เราในที่นี้คือ ผมและคุณมีชัย
วีระไวทยะ
“การศึกษาสอนคนให้ออกจากหมู่บ้านหรือไม่ก็
เมื่อจบมาแล้วก็ว่างงาน” คุณมีชัย
กล่าวถึงปรากฏการณ์ของการจัดการศึกษาในระบบของประเทศไทย
“โรงเรียนจึงจัดให้มีการสอนนักเรียนให้มีความรู้เชิงธุรกิจ
และเป็นธุรกิจเพื่อสังคมด้วย” คุณมีชัย นำเสนอทางออกของปัญหา เหมือนเป็นการสรุปสั้น
ๆ ไปในตัว ตามข้อจำกัดของเวลาที่มีระหว่างการสนทนา
โรงเรียนตามที่คุณมีชัย
วีระไวทยะอ้างถึงคือ โรงเรียนมีชัยพัฒนา
"บริเวณประตูทางเข้าโรงเรียนมีชัยพัฒนา.
โรงเรียนมีชัยพัฒนา
ตั้งอยู่ที่อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นโรงเรียนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
1-6
อาคารเรียนทั้งหมดสร้างจากไม้ไผ่ที่มีรูปแบบอาคารเน้นความเป็นธรรมชาติ
สร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะกับการเรียนรู้ผ่อนคลาย
โรงเรียนเปิดการเรียนการสอน เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2552
เป้าหมายสูงสุดของโรงเรียนคือ เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตและเป็นศูนย์กลางในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของคนในชุมชน
มุ่งสร้างคนรุ่นใหม่ให้เป็นคนดี มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และมีจิตสาธารณะ
รู้จักแบ่งปัน
ปัจจุบันโรงเรียนได้ร่วมกับสถาบันอาศรมศิลป์ในหลักสูตรเตรียมบัณฑิตของหลักสูตรศิลปะศาสตร์บัณฑิต
สาขาวิชาประกอบการสังคมที่มีจุดมุ่งหมายในการสร้างนักกิจการเพื่อสังคมให้แก่สังคมไทย
เมื่อต้นเดือนกันยายน 2557
โครงการความร่วมมือระหว่างประเทศฟินแลนด์กับประเทศไทยเพื่อการปฏิรูปการศึกษาและการพัฒนาโรงเรียนในโครงการ
“Project for Change”
ได้ดำเนินการจัดเวทีสัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องปัญหาและทางออกของการศึกษาไทย
เส้นทางสู่การปฏิรูปการศึกษาไทย ร่วมกับนักการศึกษา ภาครัฐและภาคเอกชนในประเทศไทย
โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญทางการศึกษาจากประเทศฟินแลนด์ อาทิ ศาสตราจารย์เอโร โรโป (Prof.Eero
Ropo) มาให้ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เกี่ยวกับการจัดระบบการศึกษาในประเทศฟินแลนด์
ที่ได้รับการยอมรับว่ามีมาตรฐานอยู่ในระดับที่ดีที่สุดของโลก ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมประชุมเป็นอย่างมาก
"นักเรียนนำชมแปลงเกษตรแผนใหม่"
ในการสัมมนาครั้งนี้
มีการนำเสนอกรณีศึกษา “โรงเรียนมีชัยพัฒนา” หรือ “โรงเรียนไม้ไผ่”
ซึ่งเป็นโรงเรียนทางเลือกที่สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนและคุณมีชัย วีรไวทยะได้ร่วมกันจัดตั้งขึ้นเมื่อปี
พ.ศ. 2552
ปรากฏว่า ศาสตราจารย์เอโร โรโป ได้ให้ความสนใจในแนวทางการจัดการศึกษาของโรงเรียนมีชัยพัฒนา
เป็นอย่างมาก
โดยภายหลังการสัมมนาได้เขียนอีเมล์มาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโรงเรียนว่า
เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมด้านการปฏิรูปการศึกษา
มีเป้าหมายทางการศึกษาที่เหมาะสมกับการสร้างคุณลักษณะที่พึงประสงค์ให้กับเด็กนักเรียนไทยและสังคมไทยในอนาคต
ซึ่งสอดคล้องกับบริบทของสังคมโลกในปัจจุบัน กล่าวคือ
มีเป้าหมายที่ว่าด้วยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมรอบตัว
(ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ สังคมและวัฒนธรรม)
รวมทั้งมีเป้าหมายในการปลูกฝังความเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศให้กับเด็กนักเรียนด้วย
ศาสตราจารย์เอโร โรโปรู้สึกประทับใจในกระบวนการเรียนการสอนที่ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้วิธีการดำรงชีวิตที่ช่วยปกป้องและอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสงบสุข
เข้าใจประวัติศาสตร์ ความเป็นมาและเห็นคุณค่าทาง วัฒนธรรม
รวมทั้งได้ฝึกการทำธุรกิจ โดยสอนให้นักเรียนเข้าใจในแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลกในยุคแห่งการแข่งขันแบบเสรีที่มีความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลักประกันความสำเร็จ
แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงคุณค่าการดำเนินธุรกิจบนหลักความเสมอภาค ยุติธรรม
เคารพธรรมชาติและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย
"โครงการอบรมภาษาอังกฤษหลักสูตรสายฟ้าแล็บ"
การจัดการศึกษาทางเลือกของ “โรงเรียนมีชัยพัฒนา”
จึงเป็นรูปธรรมการปฏิรูปการศึกษาที่น่าสนใจสำหรับคนไทยที่มีความสนใจในเรื่องการพัฒนาการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนไทยในชนบท
เพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายที่ว่า “เรียนรู้เพื่อเปลี่ยนแปลงตนเองและสังคม”
คุณมีชัย
วีระไวทยะกล่าวว่า “ผมเชื่อว่า ความสำเร็จเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ด้วยการทำงานร่วมกับเพื่อนมนุษย์
ไม่ใช่โดยลำพัง แต่ละคนล้วนมีบทบาทที่มีความหมายสำคัญยิ่ง สมาคมฯ
ได้ให้ความสำคัญกับความเสมอภาค ไม่แบ่งชนชั้น ไม่มีอคติ ความลำเอียงใด ๆ
ในเรื่องเพศ และปัจจัยอื่น ๆ ของเพื่อนมนุษย์ ผมยังนึกไม่ออกว่า
หากผมไปทำงานอื่น ๆ อยู่ที่ใดแล้ว จะทำให้ผมมีความสุขเท่ากับการได้ทำงานนี้
อยู่ที่นี่ สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน”
ผมมองออกไปจากรถไฟฟ้า
BTS
ไปยังด้านล่างกลุ่มแสงไฟสีแดงท้ายรถยนต์ที่วิ่งอัดแน่นไปบนถนนรอบอนุสาวรีย์เคลื่อนตัวไปอย่างเนิบนาบ
ดูราวกับสายธารลาวาสีแดงฉานไหลลงจากปล่องภูเขาไฟแล้วปูลาดเป็นทาง ทอดยาวออกไปบนพื้นราบเบื้องล่าง
ไกลออกไปสุดปลายทาง ถนนเรียวเล็กลงจนมองเห็นเป็นจุดอยู่ลิบลิบ
เหมือนโอกาสทางการศึกษาแม้เปิดกว้างมากขึ้น
แต่จุดหมายปลายทางเล็กเรียวและไม่มีโอกาสที่คนจะหวนคืนถิ่น ดั่งลาวาที่ไหลย้อนไปยังต้นกำเนิดของตนเองไม่ได้
การศึกษาแบบนี้จึงเป็นการศึกษาแบบตั๋วเที่ยวเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น