วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

โรงเรียนเก่า (The Old School)



                โรงเรียนเก่า (The Old School) เหมือนบ้านเก่า เมื่อรู้ว่าจะได้กลับไปเยี่ยมก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นธรรมดา ยิ่งรู้ว่ายังมีเพื่อนร่วมงานหลายคนยังทำงานอยู่ที่นั่นยิ่งดีใจที่จะได้เจอ มันเป็นเยื่อใยไมตรีที่งอกเงยพันผูกเมื่อครั้งที่ใช้ชีวิตร่วมกันแล้วยังเหลือให้เกี่ยวก้อยร้อยใจมาจนถึงวันที่จะกลับไปเยี่ยมอีกครั้งหนึ่ง

                ได้รับเชิญจากทางโรงเรียนให้ไปร่วมเป็นเกียตริในการทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษาสร้างโดมอเนกประสงค์ เนื่องใน “โอกาสครบรอบ 33 ปี หนองหงส์พิทยาคม”  โดยมีคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมกับเครือข่ายผู้ปกครอง ศิษย์เก่า คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาและนักเรียนหนองหงส์พิทยาคมร่วมกันเป็นเจ้าภาพ

                ในครั้งที่ได้ทำงานอยู่ที่นั่น นักเรียนต้องเข้าแถวและทำกิจกรรมกลุ่มใหญ่กลางแจ้งหน้าเสาธง ซึ่งมีแดดตลอดทั้งวัน ทุกเช้านักเรียนต้องยืนกลางแดดจ้าที่ร้อนระอุ กว่าสิบนาทีของการจัดกิจกรรมเชิญธงชาติสวดมนต์ไหว้พระและกล่าวคำปฏิญญาณตนก็กินเวลาประมาณ 13 นาที แถมด้วยครูเวรต้องออกไปให้โอวาทอีกก็กินเวลาร่วม 25 30 นาที บรรยายกาศเช่นนี้ เป็นบรรยากาศที่เหนี่ยวรั้งแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของนักเรียนตั้งแต่เช้า เพราะร้อนจนเหงื่อชุมหลัง ถ้าวันใดที่นักเรียนคนหนึ่งคนใดที่ชอบเล่นโดยใช้แรง เช่น ฟุตบอล ตระกร้อ วอลเล่ย์ ฯลฯ ก็ยิ่งเปียกโชกไปด้วยเหงื่อตั้งแต่เช้า การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพที่สุดเกิดขึ้นเมื่อนักเรียนมีความสุข ปราศจากความเครียด ความสุขที่จะส่งเสริมประสิทธิภาพการเรียนรู้จึงหาไม่ได้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่อย่างนี้

                ความทุกข์จากการเข้าแถวเคารพธงชาติในตอนเช้าจึงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่นักเรียนไม่อยากเข้าร่วม โดยต้องแกล้งทำเป็นมาสาย ส่วนครูก็ปรับตัวโดยการตัดการอบรมที่ใช้เวลามากออกไป ถ้าวันไหนไม่มีการแจ้งข่าวสารก็ให้ทำแต่กิจกรรมเคารพธงชาติ สวดมนต์ไหว้พระและปฏิญาณตนก็เสร็จ ปล่อยเข้าชั้นเรียน
               ดังนั้น การที่โรงเรียนมีโครงการจัดผ้าป่าเพื่อลดปัญหาขาดแคลนสถานที่ทำกิจกรรมจึงมีเหตุมีผลที่ควรสนับสนุนอย่างยิ่ง การได้รับเชิญไปร่วมเป็นเกียรติในครั้งนี้จึงเหมือนเป็นการได้โอกาสไปทำบุญร่วมกับเพื่อนครูทั้งที่เคยร่วมงานกันมาและครูที่มาทำงานในคราวหลัง ๆ ในโรงเรียนเก่านี้ด้วย


                                   "นักเรียนกลุ่มแรกผู้มีเข็มกลัดดอกไม้เป็นกุญไขประตูใจ"

                นักเรียนได้กลัดดอกไม้ที่ซุ้มประตูทางเข้า พร้อมคำทักทาย “สบายดีเหรอคะ”  ก็จากโรงเรียนนี้ไปยังไม่ถึงสามปี นักเรียนจึงยังจำได้ดี คำทักทายเช่นนี้เสมือนปะตูบ้านได้ถูกเปิดออกไปจนสุดบาน
ว่าไปแล้วนักเรียนที่นีก็เหมือนกับทุกที่ในโลก ถ้าเขามีโอกาสได้เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ เขาก็สามารถที่จะพัฒนาตนเองไปได้จนเต็มศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นด้านดนตรี กีฬาและวิชาการ โรงเรียนแห่งนี้จึงเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งที่เป็นที่พึ่งของคนในชุมชนให้ลูกหลานได้เรียนใกล้บ้าน ปัญหาคนเรียนไกลบ้านจึงไม่มีสำหรับที่นี่ แสดงว่าครูจัดการศึกษามีคุณภาพเป็นที่ไว้วางใจของคนในชุมชน

ครูวีรยุทธ ปริมาณครูอาวุโสและเป็นเรี่ยวแรงสำคัญคนหนึ่งในโรงเรียนได้เดินนำหน้าไปส่งยังกองอำนวยการ ที่นั่นพิธีการได้เริ่มต้นไปก่อนแล้ว เมื่อนั่งยังที่ที่เขาจัดไว้ให้จึงมีโอกาสได้รับฟังและดูพิธีการถวายผ้าป่า ที่โต๊ะกลางที่รวมของต้นผ้าป่าหลายกองจนดูแน่นขนัด แต่ละต้นประดับด้วยธนบัตรใบละหนึ่งร้อย ห้าร้อยและพันบาท เงินจำนวนหนึ่งของใครบางคนในที่นี้วอร์เรน บัฟเฟต เจ้าพ่อรวยหุ้นอันดับหนึ่งของโลกเคยกล่าวไว้ว่า “คนเป็นล้าน ๆ คนมอบเงินให้โบสถ์ ให้โรงเรียน ให้มูลนิธิ โดยเงินก้อนนี้ก็ต้องนำมาจากเงินที่จะใช้จ่ายในครอบครัวของตัวเอง เงินที่พวกเขาให้ไปหมายถึงการไม่ได้ไปดูหนัง การงดไปรับประทานอาหารนอกบ้านบางมื้อ การงดซื้อของที่อยากได้บางชิ้น



           "ต้นไม้ป่าที่ประดับด้วยธนบัตรมูลค่าอยู่ที่ี่ราคาแห่งน้ำใจของสาธุชน"

มันเป็นเรื่องจริงอยู่มาก เพราะการที่โต๊ะกลางมีต้นผ้าใบเป็นพุ่มพฤกษ์หนาตาเช่นนี้ ส่วนหนึ่งเป็นของศิษย์เก่าที่จบออกไปมีการมีงานทำในเมืองได้ร่วมใจกันรวบรวมเป็นเงินก้อนมาช่วยโรงเรียนเก่าของพวกเขา
เสร็จพิธีการตรงนั้น ได้มีโอกาสเข้าไปทักทายเพื่อนร่วมงานที่นั่งกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ นำโดย      รองผู้อำนวยการสากล โตสกุล รองผู้อำนวยการชญานินท์ อินทอง และใครต่อใครอีกหลายคนที่กรูกันเข้ามาทักทาย เพียงคนละประโยคสองประโยคก็คุ้มค่าแห่งปฏิสันถารนั้น
ที่ด้านหน้าใกล้เวทีกลางมีโซฟาของท่านบุญชัย สมใจ นายอำเภอหนองหงส์ประธานในพิธีและผู้อำนวยการชาตรี อัครสุขบุตร ผู้อำนวยการโรงเรียน หัวเรือใหญ่ ตลอดจนแขกผู้มีเกียรตินั่งอยู่กันเป็นคณะ ได้มีโอกาสทักทายทุกท่านเพียงสั้น ๆ ก่อนที่จะผ่านขึ้นบนเวทีเพื่อถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแก่พระภิกษุสงฆ์ หลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดใหญ่ในอำเภอหนองหงส์ยังสุขภาพแข็งแรงดี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ที่นี่มีครูขจรเกียรติ สุพิศ ยังเป็นพิธีกรด้านพิธีสงฆ์เหมือนเดิม
  
                    "นายบุญชัย สมใจนายอำเภอหนองหงส์ประธานเปิดงาน"

แยกตัวออกจากมุมพิธีการไปเลียบเคียงโรงทาน ที่นี่มีโรงทานในยามบุญที่หนาแน่นเช่นเดิม เป็นความร่วมมือของผู้ปกครองนักเรียน ครูอาจารย์ในโรงเรียนจัดอาหารมาเลี้ยงแขกคนที่มาร่วมบุญ ความยิ่งใหญ่ของกิจกรรมเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกของชุมชนแห่งนี้
กิจกรรมพิธีการต่าง ๆ ได้ลากเลื่อนเวลาออกไปจนถึงเที่ยงวัน ทุกอย่างจึงสิ้นสุดลง ยังคงเหลือกิจกรรมภาคกลางคืนที่เป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ของศิษย์เก่าที่แยกย้ายกันไปประกอบอาชีพการงานในต่างจังหวัดได้กลับบ้านในวันหยุดปีใหม่และถือโอกาสทำบุญเพื่อโรงเรียนของพวกเขา วัฒนธรรมเช่นนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วสำหรับสังคมไทย
การมีจิตใจสูง นอบน้อมและเกื้อกูลกันของคนในสังคมไทยเป็นลักษณะเด่นของคนไทย ที่เป็นจุดแข็งทำให้ไทยยังคงเป็นไทยอยู่ได้ เพราะถึงที่สุดแล้วอย่างไรเสียคนไทยไม่เคยทิ้งกัน


                         "สมาชิกโรงทานกระเพาะอาหารของงานผ้าป่าทุกครั้ง"

การได้รับเชิญจากทางโรงเรียนให้ไปร่วมเป็นเกียรติในการทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษาสร้างโดมอเนกประสงค์ เนื่องใน “โอกาสครบรอบ 33 ปี หนองหงส์พิทยาคม”  ในครั้งนี้จึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้ไปอยู่ในท่ามกลางคนดี ทำให้รู้สึกเปี่ยมสุขและภาคภูมิใจที่ครั้งหนึ่งเคยได้เป็น ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้

จึงพูดกับใครต่อใครไม่หยุดว่า ผมเคยเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนหนองหงส์พิทยาคม !!!


วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ก้าวลงเพื่อเดินขึ้น




                บันใดของกาลเวลากำลังไต่ลงมา เพื่อก้าวขึ้นสู่ขั้นต่อไปของห้วงเวลาใหม่ การเดินลงของใครบางคนจึงเหมือนการเตรียมตัวเดินขึ้นบนเส้นทางใหม่

                Kobi Yamada กล่าวว่า Sometimes you just have to take the leap and build your wings on the way down
                วานิษา เรช แปลว่า บางครั้งคนเราก็ต้องยอมกระโดดลงจากที่สูง แล้วค่อย ๆ สร้างปีกขึ้นมา ระหว่างที่กำลังร่วงอยู่นั่นแหละ

                ปีเก่ากำลังผ่านไปปีใหม่กำลังก้าวเข้ามา ช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองและการกล่าวคำอวยพร คำอวยพรที่คนให้กันมากคือ ขอให้มีความสุขและร่ำรวยเงินทอง ไม่มีใครอวยพรให้ใครต่อใครเสียสละให้มากขึ้น แต่ในเทศกาลแห่งการอวยพรให้กันนี้ มีสิ่งหนึ่งที่คนไทยนิยมทำกันโดยไม่ต้องรอใครบอกคือ การถือโอกาสทำบุญทำกุศลกันตามวัด ตามโรงเรียนและสาธารณะสถานต่าง ๆ ซึ่งเป็นการเสียสละกันเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนและครอบครัว
                สิ่งหนึ่งที่ทุกคนรู้สึกเหมือนกันเวลาไปทำบุญคือ แรงปรารถนามีมากแต่แรงทรัพย์มีไม่ถึงที่อยากจะเสียสละให้เท่าที่คิดอยากทำ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเรายังมีไม่มากพอเท่าที่อยากจะเสียสละ



                          "อดีตปะชุนไม่ได้เหมือนเสื้อผ้าเก่า ต้องทิ้งไปเพื่อให้ได้สวมใส่ตัวใหม่.

                ในเรื่องการเสียสละนี้ ไปพบบุคคลที่เป็นมหาเศรษฐีระดับโลกเขามีทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจมาก ๆ จากหนังสือชื่อ ถึงเวลาท้าทายสมอง (Brain Challenge) แต่งโดยหนูดี ดร.วนิษา เรช ที่คิดทำธุรกิจเพราะมีแรงบันดาลใจอยากช่วยสังคมแต่ไม่มีทุนทรัพย์มากเท่าที่อยากทำ
                ครั้งหนึ่ง ดร.หนูดีกล่าวว่า “ถึงจุดหนึ่งซึ่งความอดทนในการเขียนขอทุนและถูกปฏิเสธไปเรื่อย ๆ คงใกล้หมด หนึ่งในรุ่นพี่สองคนก็พูดขึ้นมาว่า ทำงานนี้ให้เป็นธุรกิจกันเถอะ ซึ่งอีกคนหนึ่งก็เถียงกันขึ้นมาทันทีว่า แต่เราสองคนไม่อยากเป็นนักธุรกิจไง เราตกลงกันแล้วว่า เราจะทำงานนี้เพื่อช่วยเหลือสังคม” นี่เป็นข้อหารือของรุ่นพี่ที่เรียนด้านวิจัยในสถาบันเดียวกันหารือกัน
                จากนั้นมาก็เกิดออฟฟิศเล็ก ๆ ในโรงรถเก่ากับพนักงานห้าคน ภายในปีเดียวก็เข้าสู่รูปแบบการทำเป็นธุรกิจใช้การตลาด การประชาสัมพันธ์เข้ามาช่วยจับผลิตภัณฑ์และใช้วิธีการขายไปเลย โดยไม่ต้องขอเงินทุนมาสนับสนุนการแจกฟรี เขาสามารถเพิ่มพนักงานเป็น 112 คนและมีเงินพอไปเช่าออฟฟิศที่ตึกระฟ้าใจกลางมหานครนิวยอร์ค มองเห็นอ่าวกว้าง เพื่อรองรอบการเจริญเติบโต
                สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงแต่เปลี่ยนมุมคิดจากเดิมว่า การทำธุรกิจไม่ใช่โลกของการเอารัดเอาเปรียบ การชิงไหวชิงพริบ การเอามาให้ได้มากกว่าสิ่งที่เราให้ไป การละโมบโลภมาก คิดอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมด แต่จริง ๆ แล้ว โครงสร้างทางธุรกิจที่แข็งแกร่งกลับทำให้ความฝัน ความหวัง ความตั้งใจที่เราอยากจะช่วยเหลือคนอื่นเป็นจริงขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องไปหวังพึ่งพาเงินทองจากการขอทุน
                จากนั้นเครื่องมือดิจิตัลของรุ่นพี่ทั้งสองขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แม้ราคาจะไม่ถูกเลยแต่คนเต็มใจซื้อ

                สำหรับคนที่รวยระดับโลกเขาคิดอย่างไรกับการเสียสละ ดร.หนูดี กล่าวว่า วอร์เรน บัฟเฟต เจ้าพ่อหุ้นรวยอันดับหนึ่งของโลก ได้จัดทำคำปฏิญาณเพื่อสาธารณประโยชน์มีข้อความว่า ในปี พ.ศ. 2549 ผมได้ตัดสินใจยกสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทเบิรฺคเชอร์ แฮทธะเวย์ของผมให้กับมูลนิธิที่ไม่แสวงหาผลกำไร ผมไม่สามารถมีความสุขไปกว่านี้ได้ สำหรับการตัดสินใจครั้งนี้และในเวลานี้ บิลและเมลินดา เกตส์และผมก็กำลังขอให้คนอเมริกันที่มั่งคั่งกันอีกหลายร้อยคนเขียนคำมั่นจะยกสินทรัพย์อย่างน้อย 50% ของพวกเขาให้การกุศล ดังนั้น ตอนนี้ ผมจึงเห็นว่า มันสำคัญที่ผมจะกล่าวย้ำและอธิบายว่า ความคิดอะไรอยู่เบื้องหลังของการกระทำของผมในครั้งนี้ อันดับแรก คือ 99% ของความมั่งคั่งของผมจะถูกบริจาคให้การกุศลภายในเวลาที่ผมยังมีชีวิตอยู่หรือเมื่อผมตายไปแล้ว ถ้าหากนับกันเป็นดอลล่าร์ คำมั่นสัญญานี้ก็เป็นเงินมากอยู่


                    "การดูแลเอาใจใส่ลูกศิษย์ของครูเป็นรูปแบบหนึ่งของการเสียสละแบบครู"

                แต่หากเปรียบเทียบกันตามอัตราส่วนจริง ๆ ผมว่าคนธรรมดาจำนวนมากในสังคมของเรามอบหั้คนอื่นกว่านี้ทุก ๆ วัน คนเป็นล้าน ๆ คนมอบเงินให้โบสถ์ ให้โรงเรียน ให้มูลนิธิ โดยเงินก้อนนี้ก็ต้องนำมาจากเงินที่จะใช้จ่ายในครอบครัวของตัวเอง เงินที่พวกเขาให้ไป หมายถึง การไม่ได้ดูหนัง การงดไปรับประทานอาหารนอกบ้านบางมื้อ การงดซื้อของที่อยากได้บางชิ้น ในทางตรงกันข้าม ครอบครัวของผมไม่ต้องงดสิ่งใดเลยในการให้ถึง 99% ของทรัพย์สินที่เรามีอยู่ ที่สำคัญคำมั่นสัญญาแห่งการให้ครั้งนี้ ผมไม่ได้ให้ ในสิ่งที่สำคัญที่สุดของผมสิ่งนั้นคือ “เวลา”

                คนจำนวนมาก รวมถึงลูกทั้งสามคนของผม ซึ่งผมพูดด้วยความภาคภูมิใจว่า ได้ให้ทั้งเวลาและความสามารถของตนเองในการช่วยเหลือผู้อื่น
                คนจำนวนหนึ่งถูกสอนมาว่าการหาเงินเป็นความโลภอย่างหนึ่ง จึงทำให้แรงจูงใจในการหาเงินถูกลดทอนไปมาก ซึ่งคนจำนวนดังกล่าวนั้นมีชีวิตสะดวกสบายอยู่ได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะมีเงินใช้จ่าย เมื่อถึงเวลาจะเสียสละด้วยทุนทรัพย์จึงเสียสละได้ไม่มากเท่ากับที่ตนอยากจะเสียสละหรือเท่ากับคนที่หาเงินได้เยอะ ๆ
                การปฏิญาณตนเพื่อการบริจาคของ วอร์เรน บัฟเฟต จึงเป็นการประกาศให้ทุกคนได้เห็นว่า ส่วนเกินของชีวิตควรอุทิศให้สังคมนั้นมีอยู่จริง
                หนังสือเล่มนี้น่าอ่าน พิมพ์ครั้งที่ 2 ตุลาคม 2557 จัดพิมพ์โดยบริษัทสมองดีกับหนูดีจำกัด จำนวน168 หน้า ที่คัดมานี้ เป็นตัวอย่างบางตอน ส่วนที่เหลือล้วนแต่หน้าสนใจชวนให้ติดตาม ล้วนเป็นความคิดใหม่ด้วยกันทั้งสิ้น


                จึงมอบสิ่งดีๆนี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2558  แก่ทุก ๆ ท่านครับ

วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557

บุคคลแห่งปี 2014 (2014 Person of the Year) นักรบอีโบล่า (The Ebola Fighters): คนผู้ขานรับเสียงเพรียกหา (5)



                                                                                                                    David Von Drehle   รายงาน
                                                                                                      
                                                                                                         สุริยา เผือกพันธ์ แปลและเรียบเรียง
                

                       “ที่ชานเมืองมอนโรเวีย เมืองหลวงของไลบีเรีย ผืนหญ้าสีเขียวอยู่ท่ามกลางปาล์มและพืชเขตร้อน เป็นสถานที่ก่อเกิดเรื่องราวของกลุ่มคนในบ้านสีเหลืองสดใสแจมด้วยสีน้ำเงินอย่างประณีต นี่คือหน่วยปฏิบัติการ The campus of Eternal Love Winning Africa ที่ที่ไม่มีเชื้อชาติศาสนา” และนี่เป็นหนึ่งในบุคคลแห่งปี 2014


                                         “จำนวนผู้ป่วยทรงตัวในไลบีเรียแต่ยังเพิ่มมากขึ้นในกินิและเซียร์ราโอน
                ไลบีเรีย ป่วย 7,719 ราย เสียชีวิต 3,177 ราย กินี ป่วย 2,283 ราย เสียชีวิต 1,412 ราย เซียร์ราโอน ป่วย 7,798 ราย เสียชีวิต 1,742 ราย




ดร.บรู๊ซ ริบเนอร์ (Dr. Bruce Ribner) วัย 69 ปี ผู้อำนวยการหน่วยควบคุมโรคติดต่อ Serious communicable Disease Unit โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอีมอรี แอตแลนต้า
                ในระยะแรกของการระบาด ผมรู้ว่าผู้ป่วยเป็นคนในอัฟริกาที่ติดเชื้ออิโบล่า และที่นั่นมีคนอเมริกันอยู่ด้วย และผมรู้ด้วยว่าถ้านำพวกเขากลับอเมริกา ก็จะกลายเป็นที่สนใจต่อการดำเนินชีวิตอย่างมาก ดังนั้นภารกิจในเบื้องต้นของพวกเราคือ การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของ CDC (หน่วยป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐอเมริการ: Centers for Disease Control) แต่ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องเกี่ยวกับประชาชนจนกระทั่งได้รับโทรศัพท์ (จาก Brantly และ Writebol)
                การเป็นนักระบาดวิทยา ผมได้เพิ่มความสำคัญกับการสร้างหน่วยงานที่พวกเราเคยอยู่มา เกือบทุกแห่งที่มีจะขาดคนทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก แต่ไม่เป็นไร เพราะว่า ที่นี่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ระเบียบการของเราในแต่ละวันยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ จริง ๆ แล้วพวกเรามีระเบียบและแผนการในใจที่จะใช้เวลาทำการทดลองอยู่แล้ว
                มันไม่ใช่สิ่งที่คุณจะทำนายได้อยู่แล้ว ใครจะรู้ว่า MERs กำลังจะมา ใครจะรู้ว่า SARs กำลังจะเกิดและใครจะรู้ว่าอัโบล่ากำลังจะกระจายจากอัฟริกาตะวันตกและมาระบาดอย่างน่ากลัวได้เกือบปีแล้ว จริงแล้วเราได้ทำทุกอย่าง เพราะว่าเรารู้ว่า เหตุของการระบาดทุกวิธี ก็เหมือนกับสิ่งที่เราเคยเห็นมาแล้ว เราไม่ได้มีแผนการรองรับไว้

หมายเหตุ : 1. ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์กลุ่มอาการโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (อังกฤษ: Middle East respiratory syndrome coronavirus, MERS-CoV) เป็นเชื้อไวรัสชนิดโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะคล้ายกับไวรัสที่ทำให้เกิด SARS ตรวจพบครั้งแรกในตะวันออกกลางช่วงกันยายน 2555 ในผู้ป่วยชาวกาตาร์ที่เพิ่งเดินทางไปยังซาอุดิอาระเบีย ซึ่งกำลังป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจและไตวาย

                2. ซาร์สหรือ SARS ย่อมาจาก Severe acute respiratory distress syndrome หรือบางคนเรียกว่า กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง คือโรคติดต่อร้ายแรงที่เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ SARS corona-virus โดย ผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการทางระบบหายใจ ซึ่งอาจรุนแรงจนมีโอ กาสเสียชีวิตได้สูง เป็นโรคที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ โดยเกิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศจีนในปี พ.ศ. 2545 ติดต่อกันได้ง่าย จึงทำให้เกิดการระบาดไปยังอีกหลายประเทศทั่วโลก องค์การอนามัยโลกร่วม กับองค์การต่างๆ จึงได้พยายามควบคุมโรค และสามารถหยุดการระบาดได้ในปีต่อมาคือ พ.ศ.2546 ซึ่งในปัจจุบันก็ยังไม่พบการระบาดขึ้นมาอีก


ดร. เคนต์ แบรนต์ลี่ (Kent Brantly) วัย 33 ปีเป็นหมอขององค์กรการกุศล Samaritan’s Purse
                ผู้นำทีมนำข่าวมาที่หน้าต่างห้องนอนของผม “เคนต์ เพื่อน เรามีผลงานของแกนะ มันเป็นข่าวดีสำหรับอีโบล่า” ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร เพียงแต่ถามเค้าว่า “เกี่ยวกับแผนของเราหรือ”
                ไม่นาน หลังจากที่ผมมาถึงอีมอรี่ ภรรยาผม แอมเบอร์ โทรหาผมจากนอกห้อง ผมจำไมได้ว่าเราพูดว่าอะไรกัน ผมเพ้อมา แต่เธอได้พูดกับผมว่า “ เราเห็นคุณเดินออกจากรถพยาบาลฉุกเฉิน”  ผมถามเธอว่า “คุณมองฉันเหรอ” เธอตอบว่า “ใช่ เคนต์ โลกทั้งใบมองคุณอยู่”
                ผมเหมือนคนที่มาก่อนอีโบล่าหรือ ไม่ว่าจะตอบกี่ครั้งก็ต้องบอกว่า ใช่ ผมไม่ได้มีจิตสำนึกที่ต้องตระหนักอยู่ในทุก ๆ นาที ตลอดเวลาในที่ที่ผมใช้ชีวิตอยู่ แต่ผมคิดว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเราผ่านไปตลอดเส้นทางที่จะทำให้เกิดความเสียหาย มันไม่ใช่เป็นการเล่าเรื่องการกอบกู้แบบที่เป็นอยู่ปกติ แต่มันเป็นเรื่องของโอกาสที่จะสร้างความน่าเชื่อถือในการกอบกู้บางสิ่งบางอย่าง เราสามารถพูดได้ว่า ผมจะสามารถทำอะไรให้ดีขึ้นในเวลานี้ได้อย่างไร เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ผมอยู่กับมันมาตลอดเวลา
                เมื่อผมขอบคุณพระเจ้าเพื่อความปลอดภัยของชีวิต ผมไม่มีอะไรที่แสดงให้เห็นเป็นเอกลักษณ์เกี่ยวกับเรื่องนั้น  ถ้าคุณดูวีดิทัศน์ของผู้รอดชีวิตในไลบีเรีย คุณจะเห็นคนจำนวนมากเหล่านั้นขอคุณพระเจ้าที่ทำให้เขารอด ผมเลือกอาชีพในโรงพยาบาล เพราะผมมีความต้องการทักษะที่จับต้องได้ในการบริการประชาชน ลึกสุดในหัวใจของผม ผมยังคิดว่า เสียงที่เรียกผม ผมไม่ต้องการได้ยินไปตลอดชีวิตและอยากลืมเรื่องนี้


ดร. ฟิลลิป ไอเรแลนด์ (Dr. Philip Ireland) วัย 44 ปี หมอชาวไลบีเรียที่ศูนย์การแพทย์ John F.Kennedy Medical Center ในมอนโรเวีย
                    พวกเราไปถึงโรงพยาบาลที่หน่วยรักษาโรคอีโบล่า ผมล้มตัวลงบนเตียงนอนและหมดสติไป
                ในคืนนั้นเป็นคืนที่เลวร้ายที่สุด ผมมีผู้ป่วยท้องเสีย (Diarrhea) 46 รายและผู้ป่วยอาเจียน (Vomiting) 26 รายผมอยู่ในทะเลของความสับสน ในวันต่อมาได้มีผู้ช่วยหมอ (Physician’s assistant) เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งผมไม่มีวันลืมเขาได้ เขาทำงานให้ผมด้วยความรัก ทำความสะอาดให้ผมอย่างมากมายที่ผมจะไม่ลืมเป็นอันขาดตลอดชั่วชีวิต เขาทำความสะอาดผมทั่วทั้งตัว สวมเสื้อผ้าให้ ให้ผมนอนบนเตียงที่สะอาดซึ่งผมรู้สึกว่า มันเป็นสิ่งที่สุดยอดจริง ๆ
                ในตอนเช้าของสามวันแรก ผมเริ่มงานด้วยความสยดสยอง ผมมีอาการสะอึกที่น่าสยดสยอง (Terrible hiccups) อาการที่เกิดจากอีโบล่า มันเกิดอาการเมื่อหมอในคลินิกได้รักษาผม ผมคิดว่าผมจะต้องตายแน่ พวกเขาได้พูดคุยกันแม้กระทั่งว่า จะเผาหรือฝังผม และข่าวในวันนั้นกระจายไปว่าผมได้เสียชีวิต แต่หลังจากวันนั้น วันที่สี่ใน ETU ผมอาการดีขึ้น ดังนั้นเมื่อพวกเขามาตรวจผมในเช้าวันต่อมา พวกเขาเห็นผมยืนอยู่ด้วยความรู้สึกปลาดใจอย่างมาก
                ผมพักอยู่ที่นั่นจนกระทั่งดีขึ้นเรื่อย ๆ


                

วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2557

บุคคลแห่งปี 2014 (2014 Person of the Year) นักรบอีโบล่า (The Ebola Fighters): คนผู้ขานรับเสียงเพรียกหา




                                                                                                           David Von Drehle   รายงาน
                                                                                                          สุริยา เผือกพันธ์ แปลและเรียบเรียง

                “ที่ชานเมืองมอนโรเวีย เมืองหลวงของไลบีเรีย ผืนหญ้าสีเขียวอยู่ท่ามกลางปาล์มและพืชเขตร้อน เป็นสถานที่ก่อเกิดเรื่องราวของกลุ่มคนในบ้านสีเหลืองสดใสแจมด้วยสีน้ำเงินอย่างประณีต นี่คือหน่วยปฏิบัติการ The campus of Eternal Love Winning Africa ที่ที่ไม่มีเชื้อชาติศาสนา” และนี่เป็นหนึ่งในบุคคลแห่งปี 2014




ดร. ปีเตอร์ ไพโอท (Dr. Peter Piot) วัย 65 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสและนักฟิสิกส์ผู้ร่วมงานการค้นหา   อีโบล่าในห้องทดลองของพวกเราที่แอนต์เวิร์บ (Antwerb) เราได้เห็นไวรัสอีโบล่าในครั้งแรกในวันที่ 10 ตุลาคม 1976 โดยเราได้นำกระติกน้ำร้อนสีน้ำเงินสดใสมาใบหนึ่งแบบที่คุณเคยใช้ดื่มกาแฟนั่นแหละ ในนั้นบรรจุเลือดของแม่ชีแคทอริกคนหนึ่งซึ่งได้เสียชีวิตลงด้วยอาการเลือดหลั่ง ซึ่งเป็นเหมือนเสียงระฆังที่บอกเตือนพวกเรา เราเพียงแต่สวมถุงมือและเปิดมันออกภายใต้ความดันเป็นลบ ดังนั้น อากาศจึงพุ่งขึ้นมาแต่ไม่ได้พัดถูกใบหน้าของใคร สิ่งหนึ่งที่พวกเราเห็นว่ายอยู่ในของเหลวกึ่งน้ำกึ่งน้ำแข็งในขวดเล็ก ๆ ที่ที่ยังไม่ถูกทำลาย ส่วนกระติกใบอื่นแตกเสียหายหมดแล้ว มันมีเพียงเลือดและไวรัสที่ว่ายอยู่ในกระติกน้ำร้อน เราไม่มีเบาะแสใด ๆ บ่งบอกเตือนให้รู้เรื่องราวของมันเลย ดังนั้น จึงคิดว่ามันต้องเป็นอันตรายแน่ เราใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องจึงเห็นตัวคล้ายหนอนที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นี่มันมีมาก่อนมีกูเกิ้ล ดังนั้นเราจึงไปที่ห้องสมุดเพื่อไปดูที่สมุดรวมภาพไวรัสและยืนยันได้ว่า นี่คือไวรัสเพียงชนิดเดียวที่เรารู้จักเรียกมันว่า มาเบริ์ก (Marburg) เวลานั้นจึงเป็นเวลาที่เราได้รู้จักมันครั้งแรก “อ้า..นี่คือไวรัสตัวใหม่ หรือที่เรียกว่า มาเบริ์ก” ที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาด


ดร.พาร์ดิช ซาเบตี้ (Dr. Pardis Sabeti) วัย 38 ปี นักพันธุศาสตร์ ผู้ซึ่งค้นหา จีโนม (ข้อมูลทางพันธุกรรมทั้งหมดที่จำเป็นใช้ในการสร้างและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตอย่างปกติของสิ่งมีชีวิตชนิดใดชนิดหนึ่ง) ของไวรัสอีโบล่าจากการแพร่ระบาด
เราเห็นสัญญาณที่เผยให้รู้ถึงการระบาดในเดือนมีนาคมที่กินี (Guinea) แล้วดำเนินการเตรียมการวิจัยโดยร่วมมือกับโรงพยาบาลในเซียร์ราลีโอน (Sierra Leone) การระบาดเกิดขึ้นบริเวณชายแดนของกินี,เซียร์ราลิโอน, และไลบีเรีย (Liberia) ดังนั้น เราจึงรู้ได้ว่า โรงพยาบาลอาจจะรู้เรื่องนี้แล้ว เพื่อน ๆ ของพวกเราที่โรงพยาบาลและที่กระทรวงสาธารสุขในเซียร์ราลีโอน พูดว่า “พวกเราต้องการตรวจและวินิจฉัย” เราขึงตอบว่า “ตกลง เราจะช่วย”
การวินิจฉัยอีโบล่าที่ขาดการยืนยันมีความเป็นไปได้ เพราะว่า พวกเรารู้เรื่องความเป็นไปในจีโนมของไวรัส การบำบัดรักษาคล้ายกับ ZMapp อยู่บนพื้นฐานของการโจมตีโปรตีนในไวรัสด้วย ถ้าจีโนมเปลี่ยนแปลง โปรตีนเปลี่ยนแปลงและโปรตีนต่อต้านเชื้อโรคในร่างกาย (Antibodies) อาจทำงานไม่ได้นาน ดังนั้น การทำงานของจีโนมจึงเป็นหน่วยพื้นฐานอันแรกที่จะทำหน้าที่นี้ ในกรณีนี้ มีข้อแนะนำว่า การระบาดเริ่มต้นจาก การระบาดวิธีเดียวที่เข้าสู่มนุษย์และไม่ขยายวงกว้างโดยสัตว์และไม่ติดต่อสัตว์ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเฝ้าดูการติดต่อระหว่างคนกับคน


ธอมัส เกอิสเบิร์ต (Thomas Geisbert) วัย 52 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัส ซึ่งเป็นผู้นำการสืบค้นครั้งแรก ด้วยยา TKM อีโบล่า

ผมมองเห็นอีโบล่าเป็นเพียงสิ่งที่ท้าทาย เมื่อผมเริ่มศึกษาบางอย่างครั้งแรกในปี 1990 ผมรู้สึกตื่นเต้น เพราะว่าบางสิ่งที่ผมพยายามทำนั้นใช้หมู หนูหรืออื่น ๆ  แต่มันเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดยจากสัตว์จำพวกหนู (Rodent) ไปสู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ไม่ใช่คนคล้ายกับลิง ทันทีที่ทำทุกครั้งในลิง ลิงจะตายหมด พวกเราล้มเหลวมาก ๆ ในปี 1990 มีเพียงการทดลองสองครั้งในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ไม่ใช่คน ทุกครั้งที่ทำนอกห้องทดลองโดยทำที่ ไบโอเซฟตี้ ชั้น 4 และทำโดยใช้ ZMapp และ T.KM-Ebola ซึ่งผมทำกับบริษัทไบโอเทค Tekmira ผมจำได้ถึงการเดินเข้าไปในห้องที่ได้ดูลิงเสียชีวิต จากห้า หก เจ็ด แปด สิบสอง ก่อนหน้านั้นทุกตัวมีสุขภาพดี ไม่มีโรคภัย ในสนามการทดลองของผมมันรู้สึกยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่คุณจะสามารถจิตนาการ ความรู้สึกดีที่สุดคือการได้รู้ ผมได้ช่วยเหลือในการพัฒนาบางสิ่งที่เป็นความหวังในการช่วยเหลือให้คนปลอดภัย เพราะถ้ามันทำให้คนปลอดภัยได้นั่นคือสิ่งสำคญมาก

วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อีโบล่า (Ebola)



“ไม่เพียงแต่ต่างกันเฉพาะชุดที่สวมใส่เท่านั้น แต่ความคิดของแต่ละกลุ่มยังเริ่มต่างกันอีกด้วย ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าชุดของเจ้าของฟาร์มจะทำให้เขาอยู่รอดได้ แต่อีกฝ่ายหนึ่งกลับเชื่อว่า ความรู้ความเข้าใจจะทำให้ฟาร์มมีผลผลิตเพิ่มขึ้น

เขาเดินทางเข้าไปในฟาร์มแห่งนี้ โดยหวังว่าจะเข้าไปช่วยดูแลกิจการให้กับนายจ้างตามความรู้ความสามารถที่ได้เรียนมา ปริญญาด้านการเกษตรปศุสัตว์คงพอจะเป็นที่ไว้วางใจได้กับเจ้าของกิจการและเพื่อนร่วมงานในฟาร์มแห่งนี้
ความที่เขาร่ำเรียนมาสูงและดูหน่วยก้านเป็นผู้นำได้ เจ้าของกิจการเลยยกตำแหน่งหัวหน้าฟาร์มให้ ซึ่งอยู่ได้ไม่นานเขาก็พบความผิดปกติบางอย่างในโรงเรือน อย่างน้อยสิ่งเห็นได้ง่ายคือ การทำงานของคนงานในฟาร์มขาดความรู้และทักษะในการดูแลสัตว์ปีก การปฏิบัติไม่ถูกต้องตามหลักวิชา
 แม้จะนำสัตว์ปีกมาขังไว้ในโรงเรือนแต่คนงานก็มีวิธีเลี้ยงดูแบบพื้นบ้านซึ่งเป็นวิธีการเลี้ยงแบบดั้งเดิม ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงหาอาหารกินเองตามธรรมชาติ จะมีให้อาหารเสริมบ้างเช่นปลายข้าวหรือข้าวเปลือกโปรยให้กินก่อนต้อนเข้าโรงเรือน เท่านั้น
ที่สำคัญคือ คนงานทำงานแบบลูกจ้างไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายในกิจการ ส่วนเจ้าของกิจการไม่ได้มาดูแลฟาร์มตลอดเวลา จะเข้ามาเป็นครั้งคราว จึงไม่รู้ว่าชีวิตของคนทำงานและคุณภาพของสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างไร
จิตสำนึกเตือนเขาอยู่ตลอดเวลาว่า ถ้าอยู่ในสภาพนี้ต่อไปผลผลิตคงไม่บรรลุตามเป้าหมายแน่นอน ความเสียหายจะเกิดแก่ผู้เป็นเจ้าของ ก่อนอื่นเขาควรจะต้องรู้ให้แน่นอนว่า สภาพโรงเรือนได้มาตรฐานหรือไม่ คนงานขาดความรู้และทักษะอะไร อาหารสัตว์เลี้ยงมีคุณภาพเพียงพอมั๊ยเป็นต้น เมื่อได้ข้อมูลเพียงพอ สิ่งที่เขาจะต้องดำเนินการต่อไปคือ วางแผนพัฒนาและปรับปรุงส่วนที่ยังไม่ได้มาตรฐาน
เขาสร้างความเข้าใจแก่คนงานของการประชุมวันหนึ่งว่า “โรงเรือนขนาดใหญ่ที่ได้มาตรฐาน ควรมีขนาด15 คูณ 75 ตารางเมตรเป็นลักษณะฟาร์มปิดมิดชิด ติดฟอนยล์ที่ทำความเย็นอยู่ด้านใดด้านหนึ่ง อากาศข้างนอกไม่สามารถเข้าไปได้ เทพื้นด้วยปูนซีเมนต์ เพดานกรุด้วยพลาสติกไม่ให้ฝุ่นสามารถลงไปได้ หลังคาอาจมุงด้วยหญ้า สังกะสีหรือกระเบื้องก็ได้ พื้นเททับด้วยเเกลบหลังจากที่มีการล้างทำความสะอาดในโรงเรือนเเล้ว สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ ซึ่งปกติที่ฟาร์มจะตั้งให้อุณหภูมิอยู่ที่ 27 - 28 องศา”
ข้อมูลเหล่านี้เป็นความรู้ใหม่ของคนงานในฟาร์ม เมื่อพวกเขาได้รับรู้ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อนจึงดูเหมือนว่า ความลิงโลดได้เกิดขึ้นในใจเป็นอย่างยิ่ง
  ความต้องการเหล่านี้ แปรเปลี่ยนเป็นข้อเสนอในรูปแบบของโครงการนำไปสู่การตัดสินใจของเจ้าของโรงเรือน ซึ่งงานส่วนใหญ่ก็พอเป็นที่รับรู้ของเจ้าของได้ แต่การลงทุนใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่เขาจะต้องพิจารณาเป็นพิเศษ สิ่งที่นำเสนอไปให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจึงได้รับการอนุมัติบ้าง ไม่ได้รับบ้างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าของกิจการ  แต่ที่แน่ ๆ นายจ้างมีท่าทีที่ไม่ค่อยไว้วางใจหัวหน้าคนงาน ที่สร้างความสนใจให้แก่คนงานได้มากขึ้น


ความรู้เรื่องระบบการทำงานในโรงเรือนก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เขาคิดว่าจะต้องเปลี่ยนแปลง ความไม่เป็นระบบจะทำให้งานขาดประสิทธิภาพ คนงานเกิดความขัดแย้งกันได้ง่าย คนใช้ศักยภาพด้านความรู้ความสามารถไม่เต็มที่ งานใหม่ ๆ ไม่เกิดขึ้นในหน่วยงาน ทั้งหมดนี้อาจนำไปสู่จุดหายนะคือ การขาดทุนได้
หัวหน้าคนงานยังไม่หยุดประชาสัมพันธ์ “พัดลมดูดอากาศขนาดใหญ่ที่ใช้ในฟาร์มต้องมีทั้งหมด5 ตัวเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตรใช้สำหรับดูดอากาศในโรงเรือน พัดลมจะต้องเปิดตลอดเวลา ในกรณีที่ไฟดับต้องใช้เครื่องสำรองไฟฟ้าเพื่อปั่นไฟขึ้นมาใช้ทดเเทนมิฉะนั้นมันจะตายเพราะขาดอากาศหายใจ “ เขากล่าวในที่ประชุม ในขณะที่คนงานนั่งรับฟังอย่างตั้งใจ
 “อาหารที่ใช้เลี้ยง มีทั้งหมด 3 สูตร  สูตร 1 เบอร์ 203 เป็นอาหารที่ใช้เลี้ยงเมื่อ อายุ 1-14 วัน สูตรที่ 2เบอร์ 204 เป็นอาหารที่ใช้เลี้ยงเมื่ออายุ 14-21วัน สูตรที่ 3 เบอร์ 205 เป็นอาหารที่ใช้เลี้ยงเมื่ออายุ 21 วันขึ้นไป ไม่ใช่ปล่อยออกไปหากินตามธรรมชาติ” เขาเน้นย้ำ
“เค้าเคยทำยังไงมาก็ทำอย่างนั้น” เจ้าของกิจการเปรยขึ้นลอย ๆ เหมือนตั้งใจให้ทุกคนที่อยู่ในละแวกนั้นได้ยิน ในระหว่างการแวะเข้าไปเยี่ยมฟาร์มวันหนึ่ง
ก่อนหน้านั้นคนงานผู้มีหน้าที่จัดอาหารจัดน้ำให้สัตว์เลี้ยงเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงชนิดอาหารสัตว์ที่เขารู้มาว่า ได้ประโยชน์มากกว่าทั้งในแง่ต้นทุนและการเพิ่มน้ำหนักสัตว์เลี้ยง แต่ในที่สุดสัตว์ในโรงเรือนก็ได้กินอาหารชนิดเดิมความประสงค์ของเจ้าของฟาร์ม
“พวกคุณรู้ใหมว่าผมถูกต่อว่า จากนายใหญ่ พวกคุณไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร” เจ้าของกิจการพูดเสียงดังกับคนงาน โดยที่คนงานทั้งหมดไม่สนใจอยากรู้ว่านายใหญ่คือใคร นอกจากเงียบ เงียบและเงียบ ทุกคนรู้ดีว่าการตกงานคือ การตกนรก
“แบบนี้ผมต้องให้ออก” เจ้าของฟาร์มพิพากษาคนงานที่คิดเปลี่ยนอาหารสัตว์
แต่องค์ความรู้ใหม่ที่หัวหน้าคนงานมีและต้องการนำมาปรับปรุงโรงเรือนได้สร้างมั่นใจให้กับเขาเป็นอย่างมากในเรื่องผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและที่เห็นได้เฉพาะหน้าขณะนี้คือ ความรู้ใหม่ ๆที่คนงานได้รับและนำไปทดลองฝึก ทำให้คนงานดูเก่งและมีความมั่นใจในการทำงานมากขึ้นเป็นลำดับ
“ภาพความสำเร็จเหล่านี้ เจ้าของฟาร์มจะต้องรับรู้ได้ในวันหนึ่งข้างหน้า” เขาคิด
เครื่องควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ โรงเรือนต้องมี เพื่อทำให้อุณหภูมิเย็นลง ในเวลาที่โรงเรือนมีอากาศร้อน เพราะสัตว์จะตายถ้าอากาศร้อน  ลักษณะฟอยล์เย็นที่ใช้ปิดบริเวณรอบๆโรงเรือน จะเลือกปิดด้านใดด้านหนึ่งของฟาร์มเพื่อเป็นตัวดูดซับความเย็น เพื่อทำให้ในโรงเรือนมีอากาศเย็นหัวหน้าคนงานกล่าวในการประชุมคราวหนึ่ง  
“ภายในโรงเรือน มีการวางระบบน้ำใว้ให้สัตว์กิน ระยะห่างประมาณ 30 เซนติเมตร เเละภาชนะสำหรับใส่อาหารให้วางเป็นระยะๆห่างประมาณ 1 เมตร และการลงเเกลบภายในโรงเรือน ในกรณีที่มีขนาดเล็กก็จะต้องใช้ภาชนะที่เล็กเเละวางกับพื้นให้มันกินได้ เท่านี้ก็ถือได้ว่าทุกอย่างได้มาตรฐาน” เขากล่าวทิ้งท้าย
แต่ในเช้าวันหนึ่งทุกคนต้องแปลกใจ เมื่อเจ้าของกิจการได้สวมชุดคลุมเหมือนแพทย์ในโรงพยาบาล แถมยังสวมหน้ากากป้องกันโรคมาอีกด้วย


“อีโบล่า” เขากล่าวกับทุกคนอย่างแข็งขัน ในการเริ่มต้นการประชุมคนงาน
“ผมจะเล่าให้ฟัง....พวกคุณยังไม่รู้.....เดี๋ยวนี้โรคอีโบล่ากำลังระบาด มันอันตรายถึงชีวิต” เจ้าของฟาร์มพูดต่อ พร้อมหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาอ่าน
“โรคไวรัสอีโบลา หรือไข้เลือดออกอีโบลา เป็นโรคของมนุษย์ที่เกิดจากไวรัสอีโบลา โดยจะเริ่มมีอาการสองวันถึงสามสัปดาห์หลังสัมผัสไวรัส โดยมีไข้ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะ จากนั้นมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนและท้องร่วงร่วมกับการทำหน้าที่ของตับและไตลดลงตามมา เมื่อถึงจุดนี้ บางคนเริ่มมีปัญหาเลือดออก เจ้าของกิจการหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อที่บริเวณซอกคอ ท้ายทอยและหน้าผาก
เขาอ่านข้อความบนกระดาษได้เพียงเท่านี้ก็ขอตัวกลับไป
คนงานบางคนเริ่มลังเล หันรีหันขวางราวกับไม่แน่ใจในโชคชะตาตนเอง คนงานจำนวนหนึ่งศูนย์เสียความมั่นใจในการดำเนินชีวิต
“ผมว่าคุณเป็นคนนำเชื้อมายังโรงเรือน” คนงานบางคนหันมาพูดกับหัวหน้าคนงาน
“เมื่อก่อนเค้าก็อยู่กันเป็นปกติสุข แต่เดี๋ยวนี้มันมีอะไรแปลก ๆ เข้ามา” คนงานคนเดิมพูด
หัวหน้าคนงานไม่โต้ตอบ แต่เดินเลี่ยงไปทำงานตามปกติ และต่อมาเขาเริ่มศึกษาเพื่อให้รู้ความจริงว่า “อีโบล่า” มันคืออะไรกันแน่ จะได้บอกเล่าให้คนงานได้เข้าใจไม่วิตกกังวล
“มันไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกพวกเรา ผมจะเล่าให้ฟัง” หัวหน้าคนงานเรียกประชุมคนงานในวันหนึ่งที่พอจะทราบรายละเอียดของอีโบล่า
                “คือเป็นยังงี้น้า...คนรับโรคนี้ครั้งแรกเมื่อสัมผัสกับเลือดหรือสารน้ำในร่างกายจากสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น ลิงหรือค้างคาวผลไม้ เชื่อว่าค้างคาวผลไม้เป็นตัวพาและแพร่โรคโดยที่ตนเองไม่ได้รับผลกระทบจากไวรัส เมื่อติดเชื้อแล้ว โรคอาจแพร่จากคนสู่คนได้ ผู้ที่รอดชีวิตอาจสามารถส่งผ่านโรคทางน้ำอสุจิได้เป็นเวลาเกือบสองเดือน ในการวินิจฉัย ต้องแยกโรคอื่นที่มีอาการคล้ายกันออกก่อน เช่น มาลาเรีย อหิวาตกโรคและไข้เลือดออกจากไวรัสอื่น ๆ อาจทดสอบเลือดหาแอนติบอดี้ต่อไวรัส ดีเอ็นเอของไวรัส หรือตัวไวรัสเองเพื่อยืนยันการวินิจฉัยทุกคนตั้งใจฟังอย่างมาก มันเป็นเรื่องที่พวกเขาถูกกระตุ้นให้สนใจ



                เจ้าของกิจการหอบของพะรุงพะรังเข้ามาที่ฟาร์มในเช้าวันหนึ่ง มันเป็นชุดป้องกันโรคอีโบล่า
                “ผมมีอยู่ 2 – 3 ชุด ให้คนอยู่ก่อนแล้วกัน” เจ้าของฟาร์มยื่นชุดให้คนงานอาวุโส การได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร ทำให้ทุกคนต่างตระหนักถึงอันตรายและคิดหาวิธีป้องกันมากขึ้น
                “ถ้าเรารู้ความจริงเราอาจป้องกันได้โดยวิธีปฏิบัติตนให้ถูกต้องก็ได้นะครับ” หัวหน้าคนงานกล่าว
“จะให้แน่นอนเราต้องอาศัยความรู้ทางการแพทย์มาปฏิบัติตน.....การป้องกันรวมถึงการลดการระบาดของโรคจากลิงและหมูที่ติดเชื้อสู่คน ซึ่งอาจทำได้โดยการตรวจสอบหาการติดเชื้อในสัตว์เหล่านี้หัวหน้าคนงานกล่าวกับคนงานที่ไม่ได้รับชุดป้องกัน
 “เราต้องฆ่าและจัดการกับซากอย่างเหมาะสมหากพบโรค การปรุงเนื้อสัตว์และสวมเสื้อผ้าป้องกันอย่างเหมาะสมเมื่อจัดการกับเนื้อสัตว์อาจช่วยได้ เช่นเดียวกับสวมเสื้อผ้าป้องกันและล้างมือเมื่ออยู่ใกล้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าว ตัวอย่างสารน้ำร่างกายจากผู้ป่วยควรจัดการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ หัวหน้าคนงานกล่าวจนทุกคนเริ่มพยักหน้า
“เห็นมั้ยครับว่า เราป้องกันได้อย่าตระหนก ที่สำคัญในฟาร์มของเรากำลังปรับปรุงมาตรฐานของโรงเรือน การพัฒนาระบบการทำงาน การให้ความรู้และทักษะแก่พวกเราอยู่ มันเป็นเรื่องการป้องกันอยู่แล้วครับ ” หัวหน้ากล่าวทิ้งท้าย
การเข้าออกโรงเรือนของคนงานต่างไปจากเดิมตรงที่คนงานเริ่มแบ่งกลุ่มเป็นสองฝักสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งสวมชุดป้องกัน ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งยังคงสวมชุดแบบเดิมที่เคยสวมใส่ ที่สำคัญคือ ไม่เพียงแต่ต่างกันเฉพาะชุดที่สวมใส่เท่านั้น แต่ความคิดของแต่ละกลุ่มยังเริ่มต่างกันอีกด้วย ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าชุดของเจ้าของฟาร์มจะทำให้เขาอยู่รอดได้ แต่อีกฝ่ายหนึ่งกลับเชื่อว่า ความรู้ความเข้าใจจะทำให้ฟาร์มมีผลผลิตเพิ่มขึ้น
จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง เจ้าของกิจการได้ใช้รถสิบล้อบรรทุกสิ่งของเข้ามาในฟาร์มแล้วเรียกประชุมทุกคน
“วันนี้สถานการณ์การระบาดของโรคมันรุนแรงมากขึ้น  ปี 2555 มีผู้ติดเชื้อน้อยกว่า 1,000 คนต่อปี แต่การระบาดครั้งใหญ่ที่สุดจนถึงปัจจุบันคือ การระบาดของอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก ขณะนี้ พ.ศ. 2557ระบาดในประเทศกินี เซียร์ราลีโอนและไลบีเรีย จนถึงเดือนกรกฎาคม 2557 มีผู้ป่วยยืนยันแล้วกว่า 1,320 คน แม้จะมีความพยายามพัฒนาวัคซีนอยู่ แต่จนถึงบัดนี้ยังไม่มีวัคซีน เจ้าของฟาร์มหยิบกระดาษขึ้นมาอ่านเหมือนเดิม
“ผมจะแจกชุดป้องกันให้คนละชุด” เจ้าของฟาร์มกล่าวพร้อมกับยกชุดตัวอย่างขึ้นมาให้ดู
“คุณไม่ต้องไปสนใจอะไรทั้งสิ้น ใส่ชุดนี้ไว้แล้วคุณจะปลอดภัย” คนงานทุกคนต่างทยอยกันไปรับชุดที่เตรียมไว้สำหรับทุกคนด้วยความเต็มตื้น
“ต่อไปเราจะได้สงบสุขเสียที เค้าทำมาอย่างไรก็ทำไปอย่างนั้น” เจ้าของกิจการกล่าวทิ้งท้าย
คนงานทุกคนยืนจับกลุ่มมาส่งเจ้าของฟาร์มที่หน้าโรงเรือนอย่างอุ่นใจ จนรถบรรทุกสิบล้อค่อย ๆ วิ่งหายลับไปตรงโค้งถนนลิบลิบโน้น

พลันที่ทุกคนหันกลับเข้าสู่โรงเรือนสายตาทุกคู่ก็เหลือบแลเห็นบรรดาสัตว์ปีกทั้งหลาย แต่ละตัวต่างผอมโซ เนื้อตัวเปียกปอน ยืนหนาวสั่นอยู่ระริก  ส่วนหัวหน้าคนงานได้หายตัวไปจากบริเวณนั้น