สุริยา เผือกพันธ์: เขียน
บุรุษอาวุโสมาดนักวิชาการเต็มตัว
สวมเสื้อเชิ้ตสีครีมแขนสั้น ที่ใต้ปกคอเสื้อรัดด้วยเนคไทเส้นใหญ่พอประมาณ เคลื่อนไหวไปมาอย่างกระตือรือร้น ในชั่วโมงแรกของการสอนนักศึกษา
ที่ต่างคนต่างจ้องเขม็งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ พวกเขากำลังถูกฝึกให้ใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้
“สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่เราจะต้องใช้คือ
ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และภาษาอังกฤษ” ท่านกล่าวอย่างจริงจังในชั่วโมงเรียนครั้งต่อมา
ดังนั้น
ในเบื้องต้นของการเรียน ทุกคนจึงต้องมีโน้ตบุ๊คส่วนตัวติดมือเข้าชั้นเรียนทุกชั่วโมง
เนื้อหาการเรียนในระยะต้น ๆ จะถูกเคี่ยวกรำด้วยหลักสูตร ICDL
ที่นักศึกษาทุกคนจะต้องลงทะเบียนเรียนจากสถาบันนี้ ICDL
คือ The International Computer
Driving Licence หรือ ประกาศนีย์บัตรรับรองความสามารถคอมพิวเตอร์สากล
ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
หลักสูตร
ICDL ประกอบด้วยเนื้อหา 7 โมดูลในจำนวนนี้นักศึกษาแต่ละคนจะต้องสอบให้ผ่านจำนวน 4 โมดูล นักศึกษาทุกคนต่างยอมรับว่ามันยาก
ยากเพราะทั้งหลักสูตรใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อ
ภาษาอังกฤษจึงเป็นวิชาที่ท่านจะต้องฝึกปรือนักศึกษาอย่างเข้มข้น
ไม่ต่างอะไรกับ ICDL ที่มีความยากถึงสองชั้นคือ
ยากทั้งคอมพิวเตอร์และภาษาอังกฤษ
ดูเหมือนว่าในเวลาส่วนข้างมากของการเรียนระดับปริญญาเอกในระยะต้น
ๆ จึงเป็นการเรียนเพื่อฝึกฝนทักษะด้านคอมพิวเตอร์และภาษาอังกฤษเป็นหลัก
นักศึกษาต้องเรียนการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จากแผ่นซีดีที่มีเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ
คำอธิบาย คำสั่ง แบบฝึกหัดและแบบทดสอบเป็นภาษาอังกฤษล้วน ๆ
ท่านต้องสอนการใช้ทักษะทั้ง 4 คือ ฟัง พูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษมาสอดแทรกในเนื้อหาวิชาด้านภาวผู้นำและการบริหารอยู่ทุกครั้งทุกครา
และดูเหมือนว่า
การบูรณาการเทคโนโลยีกับภาษาอังกฤษเข้าด้วยกันเป็นเรื่องที่แยกไม่ออกเอาเสียเลย
วัยหกสิบปีของท่านยังดูทะมัดทะแมงต่อการนำเพลง What
A Wonderful World –-ของ Louis
Armstrong หรือแม้กระทั่งเพลง Where have all the flowers gone ของ Joan Baez มาเป็นสื่อในการเรียนภาษาอังกฤษ
ชั่วโมงแล้ว ชั่วโมงเล่า
ดูท่านกระปรี้กระเปร่าและมีความสุขอย่างยิ่งกับการมีอิริยาบถเช่นนั้น
ไม่เพียงเท่านั้น ท่านยังเพิ่มพูนทักษะด้วยการมอบ Podcast การพูดปราศรัยของบุคคลสำคัญของประเทศต่าง ๆ
มาให้ฟังอีกด้วย โดยเฉพาะการปราศรัย We shall
overcome ของ Martin Luther King ทำให้นักศึกษามีแรงบันดาลใจเป็นอย่างยิ่ง เหมือนบอกเป็นนัยว่า พวกเราจะต้องเรียนจบในที่สุด
Podcast บันทึกการปราศัย We shall overcome ของ Martin Luther King
ในระหว่างนี้
การเรียนรู้หลักสูตรเทคโนโลยีด้วยการใช้ห้อง Sound Lab เปิดฟังคำสั่ง ทำแบบฝึกหัดและแบบทดสอบ ICDL ก็เป็นไปอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
การเชิญวิทยากรที่เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษคนแล้วคนเล่ามาให้ความรู้พร้อมสื่อการสอนเพื่อฝึกทักษะการพูด
การฟังเป็นไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ ที่สำคัญสนุกสนาน
งานการแปลบทความภาษาอังกฤษครั้งละหลาย ๆ บทความคือ ของติดไม้ติดมือเป็นการบ้านให้นักศึกษาได้ฝึกปรือทักษะการอ่านและการแปลทำความเข้าใจความหมายของเนื้อหาเหล่านั้น
บางครั้งถึงกับพาออกไป Field trip ทำ Camping ฝึกฝนภาษากันนอกสถานที่ อย่างนี้ก็เคย
นักศึกษาปริญญาเอกสาขาวิชาภาวะผู้นำและการบริหารการศึกษา
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ศึกษาดูงานที่มหาวิทยาลัย Nottingham Malaysia Campus
“วิชาทั้งสองนี้ เป็นเงื่อนไขส่วนหนึ่งของการจบหลักสูตรปริญญาเอก
สาขาวิชาภาวะผู้นำและการบริหารการศึกษา” ท่านกล่าวสำทับนักศึกษาให้เห็นความจำเป็นของทักษะทั้งสองอย่างนี้
ในขณะที่นักศึกษากลับมองว่า
มันเป็นปราการอันสูงใหญ่ที่ขวางกั้นการเดินทาง
“อุปสรรคคือ สิ่งจูงใจให้เราพบกับความสำเร็จ” นักศึกษาทุกคนได้แต่ปลอบใจตนเอง
การนำนักศึกษาไปสมัครสอบเพื่อวัดสมรรถนะมีอยู่เป็นระยะ
ๆ ตามจังหวะก้าว เพื่อประเมินความก้าวหน้า และปรับปรุงพัฒนา ซึ่งเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ผลออกมาจะเป็นอย่างไร
ท่านมีแต่ส่งเสริมให้กำลังใจในการพัฒนาขีดความสามารถให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร
ท่านใช้โทรศัพท์พูดคุยกับนักศึกษาแต่ละคนราวกับว่าอยู่ในชายคาเดียวกันแต่ละครั้งนานนับชั่วโมง
จำนวนความถี่ของการติดต่อ
เป็นมาตรวัดความห่วงใยได้เป็นอย่างดี มันเป็นจิตวิญญาณของความเอาใจใส่ของคนที่เป็นครูโดยแท้จริง
ในชั่วโมงที่มีการบรรยาย นักศึกษาบางครั้งอาจมีการขาดเรียน
แต่ครูขาดไม่ได้และท่านไม่เคยขาด ชั่วโมงใดจะมีนักศึกษาจำนวนเท่าใดจะ 2 – 3 คนหรือเต็มจำนวน พลังแห่งความมุ่งมั่นในการสอนยังเท่าเดิมไม่มีลดราวาศอก มันเป็นจิตสำนึกระดับสูงของวิชาชีพครูที่ท่านถึงพร้อม
ดร.ประกอบ คุปรัตน์นำนักศึกษาเยี่ยมมหาวิทยาลัย
James Cook University ประเทศสิงคโปร์
พวกเรานักศึกษาทุกคนต่างประจักษ์ถึงแรงขับจากภายในของอาจารย์ที่มีให้กับทุกคนอย่างเต็มเปี่ยมจะมีครูสักกี่คนที่ยอมลงทุนแบกลังหนังสืออันหนักอึ้งเป็นหลายกิโลฯ
เพื่อเตรียมไปมอบให้นักศึกษาใช้เป็นสื่อประกอบเรียน
แถมยังเป็นการให้เปล่า
การดำเนินชีวิตของอาจารย์ แม้ท่านจะเลยวัยแห่งการทำงานอย่างหามรุ่งหามค่ำไปแล้ว แต่ท่านยังคงเริงรื่นเหมือนวัยแรกรุ่น
การเดินทางไป-กลับระหว่างกรุงเทพฯ –
สุรินทร์เพื่อไปพบนักศึกษาทุกสัปดาห์ในครั้งหนึ่งระยะทางไม่ต่ำกว่า 800 กิโลเมตร เป็นเวลากว่า 8 ปี ด้วยรถยนต์โดยสารประจำทางปรับอากาศ บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาคนให้ประสบความสำเร็จให้จงได้
ชีวิตยามบ่ายของท่าน จึงเหมือนตะวันยามเช้า ที่ส่องประกายเจิดจรัส
ติดตามอ่านอยู่นะคะ ^^
ตอบลบติดตามอ่านอยู่นะคะ ^^
ตอบลบ