สุริยา เผือกพันธ์ : เขียน
การเตรียมการก่อนการเดินทางไปพักผ่อนประจำปีของพวกเราในครอบครัว
ได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้เป็นแรมเดือนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเคลียร์งาน การกำหนดวัน
กำหนดสถานที่ การจองที่พักและแม้กระทั่งยานพาหนะ ได้ผ่านการตรวจเช็คเครื่องยนต์ หม้อน้้ำ แบตเตอรรี่และลมยาง มาเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนการเดินทางหนึ่งวัน แต่กระนั้นก็ยังมีสิ่งนี้เกิดขึ้น !!!!!!!!
พวกเราออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่
(1 เมษายน 2559) เพราะนอกจากอากาศจะเย็นสบาย
ถนนหนทางไม่แออัดด้วยยวดยานแล้ว ยังทำให้เรามีเวลาเตร็ดเตร่ในช่วงบ่ายของวันอีกด้วย
เวลาประมาณเที่ยงวัน เราได้เช็คอิน (Check in) ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์จอมเทียนพัทยา จังหวัดชลบุรีเมื่อไปถึงเห็นคณะทัวร์จากรัสเซียกลุ่มใหญ่กำลังติดต่อเข้าที่พักเช่นกัน
จึงต้องรอให้กลุ่มของเขาทำการติดต่อให้เสร็จก่อน ระหว่างนั้นสังเกตไปรอบ
ๆ ก็พบว่า ซ้ายก็รัสเซีย ขวาก็รัสเซีย หน้าหลังล้วนรัสเซียเต็มไปหมด เราไม่ได้มาที่นี่ 3 –
4 ปีแล้ว วันนี้ที่นี่....เปลี่ยนแปลงไปมาก
นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียบริเวณชายหาดจอมเทียน
เมื่อนำข้าวของเก็บในห้องพักเรียบร้อยแล้ว คณะได้ไปเดินเล่นเบา ๆ ด้านหลังที่พักซึ่งเป็นชายหาดที่เรียกว่า จอมเทียน
จากที่เคยเงียบเหงาไร้ผู้คนมาก่อนหน้านี้ บัดนี้มีกิจกรรมท่องเที่ยวเกิดขึ้นจนเต็มพื้นที่ เป็นต้นว่า
ลานเบียร์ ร้านเครื่องดื่ม ชากาแฟ ร้านอาหาร เต็นท์นวดแผนไทย เก้าอี้ชายหาดที่ขณะนี้เต็มไปด้วยชาวรัสเซียนอนตากแดด
ตากลมเต็มไปหมด ยาวเหยียดไปสุดแดนของโรงแรม....ไม่เว้นแม้แต่ในสระว่ายน้ำก็เต็มไปด้วยคนทุกเพศ
ทุกวัยเล่นน้ำกันสนุกสนานกันจนเต็มสระ.....แน่ละล้วนแล้วแต่มาจากรัสเซีย
รุ่งขึ้นอีกวันหลังอาหารเช้า
พวกเรานำรถมุ่งตรงไปยังท่าเรือ (Pier)
แหลมบาลีฮายในเขตพัทยากลางเป้าหมายคือ เกาะล้าน (Koh
Larn) ทะเลใส หาดทรายขาว
ปะการังสวย แร่ศักดิ์สิทธิ์
นักท่องเที่ยวลงเรือที่ท่าเรือบารีฮาย
8.30
น. ถึงท่าเรือ ยาดยานบนถนนแออัด ผู้คนหนาแน่น คนส่วนมากที่นี่ไม่ใช่ชาวรัสเซียแต่กลับเป็นชาวไทย ชาวจีนต่างกำลังเบียดเสียด
เข้าคิวซื้อตั๋วโดยสารลงเรือไปยังเป้าหมายของตน ราคาคนละ 150 บาท ที่นี่เกิดธุรกิจมากมายนับแต่รับฝากรถราคาระหว่าง
100
– 300 บาทต่อวัน รถมอเตอร์ไซด์รับ-ส่งไปลงเรือราคา 50 บาทต่อคน กล้องแอบถ่าย (ตัวเรา)
นำไปทำของที่ระลึกชิ้นละ 250 บาท แม้กระทั่งห้องน้ำก็ครั้งละ
5 บาท
เรือโดยสารขนาดบรรจุได้ 150
คนต่อเที่ยวนำพวกเราไปยังเกาะล้านในเวลา 10.00 น.ใช้เวลาเดินเรือประมาณ 44 นาทีก็ถึงเกาะล้าน เรือเทียบท่าเที่ยวแรกของเช้านี้ที่หาดแสม (Samae
Beach)
หาดแสม
เป็นหาดที่มีความสวยงามมากที่สุดอีกหาดหนึ่ง มีหาดทรายยาวถึง 300
เมตร เงียบสงบเป็นที่นิยมของนักท่องเทียวชาวยุโรปที่ต้องการพักผ่อน
พื้นที่ของหาดแสมทั้งหมดอยู่ในความดูแลของเมืองพัทยา ทำให้หาดแสมมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
และมีร้านอาหารให้นักท่องเที่ยวได้เลือกลิ้มลองอาหารทะเลเป็นจำนวนมาก
ในอนาคตหาดแสมแห่งนี้จะได้รับการพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีที่พักพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัย
ไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ เลยทีเดียว
หาดแสมเกาะล้าน
นอกจากนี้ รอบ ๆ
เกาะล้านยังมีหาดอื่น ๆ ที่น่าท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากอาทิเช่น หาดแหวน (Ta
Waen Beach) หาดสังวาล (Sangwan Beach) หาดทองหลาง (Thong Lang Beach) หาดเทียน (Thien Beach) และหาดนวล (Nual Beach) ขึ้นอยู่กับกลุ่มท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มว่าจะมีเป้าหมายไปลงเรื่อที่หาดใด
แต่สำหรับพวกเราเลือกที่จะมาที่หาดแสมเพื่อขยายการท่องเที่ยวไปยัง...เกาะล้านไข่เมีย
เพื่อดำน้ำชมปะการัง โดยจ่ายค่าบริการเรือใหญ่
พร้อมอุปกรณ์และสต๊าฟดูแลขณะดำน้ำคนละ 400 บาทใช้เวลา
1 ชั่วโมงครึ่ง - 2 ชั่วโมง
รถโดยสารขนาดเล็กนำเราไปตามถนนรอบเกาะ
ผ่านเนินเขา ขึ้น – ลงสัก 10 นาทีก็ถึงท่าเรือใหญ่นำเราไปสู่ท้องทะเล ที่นี่แออัด
จอแจอีกที่หนึ่งเพราะใคร ๆ ก็มารอใช้บริการนำไปสู่กิจกรรมเป้าหมายของตนส่วนใหญ่มาเป็นกลุ่ม
มีตั้งแต่ 2 - 3 คนไปจนถึง 10 – 12 คน พวกเราใช้เวลาดำดิ่งชมความสวยงามใต้ท้องทะเลจนครบกำหนดเวลาจึงกลับเข้าหาฝั่ง
เพื่อต่อเรือกลับพัทยาเที่ยว 15.30 น.
ร้านอาหารร้านหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมไปรับประทานริมชายทะเลพัทยาใต้
อาหารเย็นมื้อนี้เป็นเมนูซีฟูด (Sea
Food) ราคาไม่แพงมีร้านให้เลือกริมหาดพัทยากลางไปจนถึงพัทยาใต้มากมาย ทุกร้านรสชาติอร่อยน่าลิ้มลองทั้งสิ้น
จากนั้นการเดินพักผ่อนย่าน Walking Street ก็เป็นสีสันของการท่องเที่ยวในแต่ละครั้งที่ไปพัทยา
เหมือนการเดินทางได้บรรลุเป้าหมายแล้ว
เช้าวันที่สาม
ยังได้ร่วมรับประทานอาหารเช้าเมนูเดิมร่วมกับชาวรัสเซียอีกครั้ง
แต่ที่พิเศษไปกว่าทุกวันคือการเช็คเอ๊าท์ (Check
out) คืนห้องเตรียมตัวเดินทางกลับในเที่ยงวันนี้
แต่ก่อนเดินทางกลับหลังอาหารมื้อนี้พวกเราจะเดินทางไปกราบพระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดาที่เขาชีจรรย์
ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร
พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดาเขาชีจรรย์
พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดาเป็นพระพุทธรูปองค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ณ หน้าผาหินเขาชีจรรย์สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
ฝ่ายพุทธจักร สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
ฯ สยามบรมราชกุมารี มีจิตเกษมโสมนัสสมานสโมสรสนองพระมหากรุณาธิคุณอันไพศาล
ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ณ หน้าผาเขาชีจรรย์แห่งนี้
ที่นี่มีทัวร์ชาวจีนและชาวไทยหนาแน่น
ต่างก็มากราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลแห่งชีวิต เช่นเดียวกับพวกเราหลังการกราบไหว้พระที่ศักดิ์สิทธิแล้ว
ก็วางแผนเดินทางไปรับประทานอาหารเที่ยงก่อนมุ่งหน้ากลับบ้าน
รถของเรากลับเข้ามาบนถนนสุขุมวิทย์
มุ่งตรงชายทะเลพัทยาใต้อีกครั้งหนึ่ง
ฟรื้บ !!!!!!
เสียงลมดังออกมาจากล้อหลังฝั่งซ้าย
รถเสียการทรงตัวเล็กน้อย
พวกเราจอดรถลงมาดูตามเหตุแห่งเสียง
ล้อยางแบนราบด้วยเศษตาปูเสียบอยู่กลางวงล้อ
ก่อนเดินทาง ได้ผ่านการตรวจเช็คเครื่องยนต์ หม้อน้้ำ แบตเตอรรี่และลมยาง
มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่กระนั้นก็ยังมีสิ่งนี้เกิดขึ้น !!!!!!!!
ยางรั่วระหว่างเดินทางต้องหยุดเปลี่ยนยางอะไหล่
มันเป็นครั้งแรกที่เราได้ใช้สถานการณ์ครั้งนี้เรียนรู้การเปลี่ยนยางอะไหล่ด้วยตนเอง
เพื่อพยุงรถให้สามารถวิ่งไปถึงร้านปะยางได้
ที่ใกล้ที่สุดคือบี-ควิก (B-Quik) พวกเราใช้เวลาปะและเปลี่ยนยางอยู่ประมาณ 20 นาที
ก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมกับจะจ่ายค่าบริการ
“ฟรีครับไม่เก็บตังค์”
หนุ่มบริกรบอก
“ไม่เอาครับ” เขาย้ำอีกครั้ง
หลังจากพวกเรายื่นเงินให้ด้วยความไม่แน่ใจ
“บี-ควิก ศูนย์บริการรถยนต์เจ้าเดียวในประเทศไทย
ที่เปิดให้บริการรถยนต์ทุกวันตั้งแต่ 8
โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม ทุกเทศกาล แบบไม่มีวันหยุดและไม่มีพักเที่ยง
ให้บริการด้วยระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์กว่า 125
สาขาทั่วประเทศไทย จะใช้บริการวันไหน เวลาใด ก็สะดวก”
บี-ควิกพัทยากลาง
ท่ามกลางคำประกาศของธุรกิจการยางที่รายล้อมด้วยธุรกิจหลากหลายในเมืองท่องเที่ยวเช่นนี้
สถานที่บางแห่งใช้โอกาสนี้อำนวยค่าห้องน้ำครั้งละ
10
บาท ข้าวไข่เจียวจานละ 100 บาท น้ำแข็งเปล่าแก้วละ
10 บาท นำ้เปล่าขวดละ 20 บาท ฯลฯ แล้วแต่จะคิดได้ตามระดับของกิเลส ตัณหา อุปาทาน
แต่ที่นี่...บี-ควิก
พวกเราเห็นเขาทำธุรกิจเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR) รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร
ภายใต้หลักจริยธรรมและการจัดการที่ดี ด้วยการบริการเติมลม ปะยาง สลับ ถ่วง เปลี่ยน 4 เส้น ฟรี!!!!!
“ค่าเครื่องดื่มในตู้เย็นเขายังไม่เก็บเงินเลยครับ”
หนึ่งในคณะของพวกเรากล่าวอย่างชื่นชม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น