สุริยา เผือกพันธ์ เขียน
ผมออกจากบ้านในตอนสายของวันก่อนวันมาฆะบูชาหนึ่งวัน
เพื่อไปทำบุญไหว้พระที่วัดไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์
จังหวัดศรีสะเกษ
แต่กลับต้องไปให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ณ สภ.ภูสิงห์ !!!!!!
………………………………………………………………………..
ก่อนหน้านั้นไม่ถึงชั่วโมง.....
ห..ยุ..ด ด
ด ด ..... ห..ยุ..ด ด
ด ด .... ห..ยุ..ด ด
ด ด
เสียงคนตะโกนดังลั่นมาจากด้านหลังรถเก๋งส่วนตัวของผม
ที่กำลังติดเครื่องเตรียมเดินทางกลับบ้านในบ่ายแก่ ๆ
ของวันก่อนวันมาฆะบูชาวันนั้น
ณ เวลานั้น ผู้คนพลุกพล่าน
ยวดยานหลากหลาย มาจากทุกสารทิศ บรรยากาศการทำบุญไหว้พระที่วัดไพรพัฒนาดูคึกคักเป็นพิเศษ
ทุกคนต่างมาเพื่อไหว้พระขอพรจาก หลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน
หลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา
ไม่มีใครรู้ว่าหลวงปู่สรวงมีอายุเท่าใด
มีถิ่นกำเนิดมาจากที่ไหน รู้เพียงว่าเป็นชาวเขมรต่ำ ได้เข้ามาในประเทศไทยนานแล้ว
คนแก่คนเฒ่า ผู้สูงอายุที่เคยเห็นท่านเล่าบอกว่า ตั้งแต่เป็นเด็ก ๆ
เกิดมาก็เห็นท่านในสภาพลักษณะเหมือนที่เห็นในปัจจุบัน
ชาวบ้านแถบนี้พบเห็นหลวงปู่บ่อย ๆ
ที่ชายป่าบ้านตะเคียนราม วัดตะเคียนราม อำเภอภูสิงห์ บ้านลุมพุก บ้านโคกโพน ต.
กันทรารมย์ อ.ขุขันธ์และหมู่บ้านอื่น ๆ เกือบทุกหมู่บ้านในบริเวณตลอดแนวชายแดนท่านจะเดินทางไปมาอยู่ในบริเวณแถบนี้โดยตลอด
แต่จะไม่อยู่เป็นประจำในที่แห่งเดียวเป็นเวลานาน ๆ บางทีหลวงปู่จะหายไปนานถึงสองสามปี
ถึงจะกลับมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าหลวงปู่ไปอยู่ไหนมา
ในช่วงหลังนี้..พบหลวงปู่จำอยู่ในกระท่อมในนาบริเวณต้นโพธิ์บ้านขยอง
วัดโคกแก้ว บ้านโคกเจริญ กระท่อมในนาระหว่างบ้านละลมกับบ้านจะบก กระท่อมบ้านรุน
(อำเภอบัวเชด) และบ้านอื่น ๆ อีกในท้องถิ่นเดียวกันนี้
ผู้คนจากทุกสารทิศไปกราบไหว้ ทำบุญขอพร
หลวงปู่เป็นพระที่มักน้อย สันโดษ
สมถะ มีความอุเบกขาสูงสุด ให้ความเมตตากับผู้ที่ได้พบเห็นทุกคน
ให้ความสำคัญกับทุกคนเท่ากันหมด ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นคนยากจน เป็นเศรษฐี คนเข็ญใจ
นับถือหลวงปู่มาก่อนหรือหลัง
จะให้ความสำคัญเท่าเทียม ทุกคนจะได้รับความเมตตาจากหลวงปู่เท่ากัน
จึงทำให้มีผู้มากราบไหว้หลวงปู่เป็นประจำและจะกลับมากราบไหว้หลวงปู่อีก
เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ
วันที่ 8 กันยายน 2543 หลวงปู่ละสังขาร
ไม่มีใครรู้อายุจริงของท่านว่าอายุเท่าใด สรีระของท่านได้ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดไพรพัฒนา
บ้านไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ มาจนทุกวันนี้
การสั่งสอนลูกศิษย์ของหลวงปู่สรวงจะเทศน์หรือแสดงธรรมน้อยมากแทบจะนับครั้งได้
ส่วนมากจะสอนลูกศิษย์ด้วยการกระทำให้ดู
อยู่ให้เห็นเป็นตัวอย่าง ในสายตาและความเข้าใจของชาวบ้านในสมัยนั้นมองท่านในฐานะผู้มีคุณวิเศษเหนือคนทั่วไปและเรียกขานว่า
“ลูกเอ็าวเบ๊าะ” (ลูกเอ็าว หมายถึงหลวงพ่อ) หรือ “ลูกตาเบ๊าะ”
(ภาษาเขมรหมายถึงพระดาบสที่เป็นผู้รักษาศีลอยู่ตามถ้ำเขาลำเนาไพร)
คำสอนที่เราได้ยินบ่อย ๆ คือ
ออยเตียนสรูล แปลว่า ให้ทานมีความสุข พรที่ให้เราตลอดมาคือ บายตึ๊กเจีย แปลว่า
ข้าวน้ำดี หมายถึง ให้อยู่ดีมีสุข อุดมสมบูรณ์ด้วยความพอเพียง
...............................................................................................
ห..ยุ..ด
ด ด ด ..... ห..ยุ..ด ด
ด ด .... ห..ยุ..ด ด
ด ด
เสียงคนตะโกนดังลั่นมาจากด้านหลังรถเก๋งส่วนตัวของผม....ผมเอียงคอชำเลืองตาไปทางด้านหลังเพียงเล็กน้อย เห็นรถบัสโดยสารสีเขียวคันใหญ่เคลื่อนตัวถอยหลัง........ตรงมายังรถของผม
ช้า ๆ เนิบนาบ
อย่างไม่รู้สึกรู้สากับเสียงตะโกนบอก
โ ค ร ม !!!!!!
ท้ายรถยักษ์สีเขียวชนโครมเข้าที่ท้ายรถของผมและอีกคันที่จอดคู่กัน
กันชนยุบ ท้ายบุบ ไฟหลังแตก !!!!!
รถบัสโดยสารถอยหลังชนรถเก๋งที่จอดนิ่ง 2 คันในบริเวณวัดไพรพัฒนา
ต่อหน้าพนักงานสอบสวน เจ้าของรถบัสผู้ก่อเหตุ
ยอมรับชดใช้ค่าเสียหายด้วยจำนน
หลับหลัง…….เขายินยอมจ่ายไม่ถึงครึ่งของราคาประเมิน…..แถมให้ไปฟ้องเอาถ้าอยากได้เต็มจำนวน
ผมมองเห็นทางไปศาลรกเรื้อ….เต็มไปด้วยหนามไหน่และทุรกันดารน้ำใจ
แต่มองเห็นคำสอนของหลวงปู่ เป็นถนนเตียนโล่ง
ไร้อุปสรรคขวางกั้น
“ออยเตียนสรุล”
ให้เท่าไรก็เท่านั้น ที่เหลือผมจ่ายเอง
“ออยเตียนสรุล”
ให้ทานมีความสุข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น