วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559

หลวงปู่สรวง : ลูกเอ็าวเบ๊าะ เทวดาเดินดิน



                                                                                         สุริยา เผือกพันธ์ เขียน

            ผมออกจากบ้านในตอนสายของวันก่อนวันมาฆะบูชาหนึ่งวัน เพื่อไปทำบุญไหว้พระที่วัดไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ

                แต่กลับต้องไปให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ สภ.ภูสิงห์  !!!!!!
              ………………………………………………………………………..

                ก่อนหน้านั้นไม่ถึงชั่วโมง.....

                ห..ยุ..ด  ด  ด   ด ..... ห..ยุ..ด  ด  ด   ด .... ห..ยุ..ด  ด  ด   ด

                เสียงคนตะโกนดังลั่นมาจากด้านหลังรถเก๋งส่วนตัวของผม ที่กำลังติดเครื่องเตรียมเดินทางกลับบ้านในบ่ายแก่ ๆ ของวันก่อนวันมาฆะบูชาวันนั้น

                ณ เวลานั้น ผู้คนพลุกพล่าน ยวดยานหลากหลาย มาจากทุกสารทิศ บรรยากาศการทำบุญไหว้พระที่วัดไพรพัฒนาดูคึกคักเป็นพิเศษ

                ทุกคนต่างมาเพื่อไหว้พระขอพรจาก หลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน


                                                        หลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา

       ไม่มีใครรู้ว่าหลวงปู่สรวงมีอายุเท่าใด มีถิ่นกำเนิดมาจากที่ไหน รู้เพียงว่าเป็นชาวเขมรต่ำ ได้เข้ามาในประเทศไทยนานแล้ว คนแก่คนเฒ่า ผู้สูงอายุที่เคยเห็นท่านเล่าบอกว่า ตั้งแต่เป็นเด็ก ๆ เกิดมาก็เห็นท่านในสภาพลักษณะเหมือนที่เห็นในปัจจุบัน
                ชาวบ้านแถบนี้พบเห็นหลวงปู่บ่อย ๆ ที่ชายป่าบ้านตะเคียนราม วัดตะเคียนราม อำเภอภูสิงห์ บ้านลุมพุก บ้านโคกโพน ต. กันทรารมย์ อ.ขุขันธ์และหมู่บ้านอื่น ๆ เกือบทุกหมู่บ้านในบริเวณตลอดแนวชายแดนท่านจะเดินทางไปมาอยู่ในบริเวณแถบนี้โดยตลอด แต่จะไม่อยู่เป็นประจำในที่แห่งเดียวเป็นเวลานาน ๆ บางทีหลวงปู่จะหายไปนานถึงสองสามปี ถึงจะกลับมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าหลวงปู่ไปอยู่ไหนมา

                ในช่วงหลังนี้..พบหลวงปู่จำอยู่ในกระท่อมในนาบริเวณต้นโพธิ์บ้านขยอง วัดโคกแก้ว บ้านโคกเจริญ กระท่อมในนาระหว่างบ้านละลมกับบ้านจะบก กระท่อมบ้านรุน (อำเภอบัวเชด) และบ้านอื่น ๆ อีกในท้องถิ่นเดียวกันนี้



                                         ผู้คนจากทุกสารทิศไปกราบไหว้ ทำบุญขอพร

                หลวงปู่เป็นพระที่มักน้อย สันโดษ สมถะ มีความอุเบกขาสูงสุด ให้ความเมตตากับผู้ที่ได้พบเห็นทุกคน ให้ความสำคัญกับทุกคนเท่ากันหมด ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นคนยากจน เป็นเศรษฐี คนเข็ญใจ นับถือหลวงปู่มาก่อนหรือหลัง จะให้ความสำคัญเท่าเทียม ทุกคนจะได้รับความเมตตาจากหลวงปู่เท่ากัน จึงทำให้มีผู้มากราบไหว้หลวงปู่เป็นประจำและจะกลับมากราบไหว้หลวงปู่อีก เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ

                วันที่ 8 กันยายน 2543 หลวงปู่ละสังขาร ไม่มีใครรู้อายุจริงของท่านว่าอายุเท่าใด สรีระของท่านได้ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดไพรพัฒนา บ้านไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ มาจนทุกวันนี้

                การสั่งสอนลูกศิษย์ของหลวงปู่สรวงจะเทศน์หรือแสดงธรรมน้อยมากแทบจะนับครั้งได้ ส่วนมากจะสอนลูกศิษย์ด้วยการกระทำให้ดู อยู่ให้เห็นเป็นตัวอย่าง ในสายตาและความเข้าใจของชาวบ้านในสมัยนั้นมองท่านในฐานะผู้มีคุณวิเศษเหนือคนทั่วไปและเรียกขานว่า “ลูกเอ็าวเบ๊าะ” (ลูกเอ็าว หมายถึงหลวงพ่อ) หรือ “ลูกตาเบ๊าะ” (ภาษาเขมรหมายถึงพระดาบสที่เป็นผู้รักษาศีลอยู่ตามถ้ำเขาลำเนาไพร)

                คำสอนที่เราได้ยินบ่อย ๆ คือ ออยเตียนสรูล แปลว่า ให้ทานมีความสุข พรที่ให้เราตลอดมาคือ บายตึ๊กเจีย แปลว่า ข้าวน้ำดี หมายถึง ให้อยู่ดีมีสุข อุดมสมบูรณ์ด้วยความพอเพียง
                ...............................................................................................

                ห..ยุ..ด  ด  ด   ด ..... ห..ยุ..ด  ด  ด   ด .... ห..ยุ..ด  ด  ด   ด

                เสียงคนตะโกนดังลั่นมาจากด้านหลังรถเก๋งส่วนตัวของผม....ผมเอียงคอชำเลืองตาไปทางด้านหลังเพียงเล็กน้อย เห็นรถบัสโดยสารสีเขียวคันใหญ่เคลื่อนตัวถอยหลัง........ตรงมายังรถของผม

                ช้า ๆ เนิบนาบ อย่างไม่รู้สึกรู้สากับเสียงตะโกนบอก

                โ ค ร ม !!!!!!

                ท้ายรถยักษ์สีเขียวชนโครมเข้าที่ท้ายรถของผมและอีกคันที่จอดคู่กัน

                กันชนยุบ ท้ายบุบ ไฟหลังแตก !!!!!


              รถบัสโดยสารถอยหลังชนรถเก๋งที่จอดนิ่ง 2 คันในบริเวณวัดไพรพัฒนา

                ต่อหน้าพนักงานสอบสวน เจ้าของรถบัสผู้ก่อเหตุ ยอมรับชดใช้ค่าเสียหายด้วยจำนน
                หลับหลัง…….เขายินยอมจ่ายไม่ถึงครึ่งของราคาประเมิน…..แถมให้ไปฟ้องเอาถ้าอยากได้เต็มจำนวน
                ผมมองเห็นทางไปศาลรกเรื้อ….เต็มไปด้วยหนามไหน่และทุรกันดารน้ำใจ

                แต่มองเห็นคำสอนของหลวงปู่ เป็นถนนเตียนโล่ง ไร้อุปสรรคขวางกั้น
                “ออยเตียนสรุล”
                ให้เท่าไรก็เท่านั้น ที่เหลือผมจ่ายเอง

                “ออยเตียนสรุล” ให้ทานมีความสุข